คนมารับบัตรคนจน ยังไม่มาก คลังจี้แบงก์รัฐ ทำความเข้าใจกับประชาชน ย้ำผู้ลงทะเบียนเขต กทม.และจังหวัดโดยรอบ มารับบัตรตั้งแต่ 17 ต.ค. จ่อเชื่อมระบบกับบัตรเดบิต รูดซื้อสินค้าผ่านเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ และยังได้ลุ้นเงินรางวัล...
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเปิดให้ผู้ลงทะเบียนมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. จนถึงปัจจุบัน ว่า ยังมีจำนวนไม่มาก คาดว่าเมื่อใกล้ช่วงสิ้นเดือน ก.ย. น่าจะมีผู้ลงทะเบียนติดต่อขอรับบัตรเพิ่มขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ส่วนผู้ลงทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดโดยรอบ 7 จังหวัด จะได้รับบัตรตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เป็นต้นไป พร้อมได้สั่งการให้ธนาคารของรัฐ เร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้มารับบัตร
นอกจากนี้ได้เตรียมนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเชื่อมระบบกับบัตรเดบิต เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย สามารถนำบัตรมารูดซื้อสินค้าผ่านเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ (อีดีซี) และได้ลุ้นรับโชคในโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตที่จะแจกเงินรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาททุกเดือน ซึ่ง 3 เดือนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จดีมาก มีประชาชนหันมาใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าและบริการเติบโตขึ้นกว่า 10% ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้เงินสดและปรับพฤติกรรมเริ่มใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนสังคมไทยให้เริ่มก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด ส่วนผู้ที่ชำระสินค้าและบริการด้วยระบบสแกนผ่านคิวอาร์โค้ด จะไม่เข้าข่ายในการรับลุ้นโชคครั้งนี้
สำหรับความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ (อีดีซี) สามารถติดตั้งตามร้านค้าได้แล้ว 1.8 แสนเครื่อง จากเป้าหมายติดตั้งทั้งหมด 5.6 แสนเครื่อง ซึ่งเมื่อถึงสิ้นเดือน มี.ค.ปีหน้า จะติดตั้งได้ครบตามเป้าหมาย เนื่องจากขณะนี้ร้านค้าต่างๆ มีความสนใจขอติดตั้งมากขึ้น เพราะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้สูงจากเดิม และเพิ่มความสะดวกไม่ต้องทอนเงิน มีเงินโอนตรงเข้าบัญชีช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยขอชี้แจงว่าการติดตั้งเครื่องอีดีซี ไม่มีผลต่อการถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะปกติทางกรมสรรพากรมีการตรวจสอบภาษีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะติดตั้งเครื่องอีดีซีหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบโชคเงินล้านในโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตครั้งที่ 4 แก่ผู้ใช้บัตรเดบิตและร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์รวม 1,012 รางวัล มูลค่า 6.9 ล้านบาท โดยพบว่า การใช้จ่ายครอบคลุมทุกหมวดร้านค้า เช่น สถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซุปเปอร์มาร์เก็ต มินิมาร์ท เป็นต้น นับเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้เงินสดและปรับพฤติกรรมเริ่มใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนสังคมไทยให้เริ่มก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด.