นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ทย.มีแผนพัฒนาประเทศไปสู่ฮับการบินของภูมิภาคโดยเฉพาะการส่งเสริมตลาดการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ของอาเซียนเพื่อให้สายการบินโลว์คอสต์หันมาใช้สนามบิน ทย.มากขึ้น โดย ทย.ได้ลดค่าใช้จ่ายสนามบิน ทั้งค่าจอดเครื่องบิน ค่าจัดจราจรอากาศที่เก็บต่ำกว่าต้นทุนจริงโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charge : PSC) ต่ำกว่าสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ถึง 50% ทำให้มีสายการบินโลว์คอสต์เข้ามาใช้สนามบิน ทย.มากขึ้น โดยพบว่ามีผู้โดยสารใช้บริการผ่านสนามบิน ทย.โตกว่า 200% จาก 5 ล้านคนเป็น 17.5 ล้านคน ในระหว่างปี 56-59
อย่างไรก็ตาม ด้านผลประกอบการรายได้ในปี 60 นั้น ทย.ตั้งเป้ามีรายได้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 600 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายต้นทุนสะสมอยู่ที่ 800 ล้านบาท นอกจากนั้น ทย.ยังมีแผนลงทุนสนามบินตามชายแดนเพื่อเปิดประตูอาเซียนใช้งบประมาณกว่า 2,278 ล้านบาทเพื่อพัฒนาสนามบินแม่สอด วงเงิน 447 ล้านบาท, สนามบินเบตง วงเงิน 1,654 ล้านบาท และสนามบินอุบลราชธานีวงเงิน 177 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนศึกษาก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่มุกดาหารเพื่อเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-สปป.ลาวอีกด้วย
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยในการประชุมตลาดการบินอินโดไชน่าว่า เอเชีย-แปซิฟิกว่า ยอมรับว่าในเอเชียมีปริมาณสายการบินต้นทุนต่ำหรือโลว์คอสต์เกิดขึ้นเยอะที่สุดในโลก ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารชาวอาเซียนที่เข้ามาในไทยในปี 2016 อยู่ที่ 8.8 ล้านคนนับว่าเติบโต 11.3% เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารราว 7.9 ล้านคน.