รมช.คมนาคม เร่ง ขสมก. พิจารณาประเด็นที่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ยื่นเรื่องตรวจสอบโครงการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี ย้ำโครงการต้องโปร่งใส..
วันที่ 23 ส.ค. 60 นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน และทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะมีการแถลงความคืบหน้าบ่ายวันนี้ โดยยอมรับว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ส่งหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม ขอให้ตรวจสอบโครงการประมูลรถเมล์เอ็นจีวีใน 2 ประเด็น คือ
1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล หลังจากมีรายงานระบุว่าเอกชนซื้อซอง 3 ราย มีบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ที่เคยชนะประมูลรอบที่แล้ว แต่มีปัญหาหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า และไม่สามารถส่งมอบรถตามกำหนดเวลาจนติดแบล็กลิสต์ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการ ขสมก.ที่ผ่านมา มีการปลดแบล็กลิสต์ให้บริษัทดังกล่าว ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบประเด็นนี้
2. ประเด็นราคากลาง การประมูลครั้งล่าสุดใช้วงเงิน 3,389 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เบสท์รินชนะการประมูลครั้งที่ผ่านมา แต่เป็นราคาต่ำกว่าราคากลางที่ประกาศถึง 40% โดยประเด็นนี้ องค์กรฯ เห็นว่าราคากลางที่อ้างอิงตัวเลขที่เบสท์ริน ชนะประมูล อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้จริง หากเอกชนประมูลงานถูกต้อง และทำตามขั้นตอนต่างๆ รวมถึงการชำระภาษี จึงขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาประเด็นนี้ด้วย หลังจากได้รับหนังสือดังกล่าว กระทรวงคมนาคมส่งเรื่องความเห็นให้บอร์ด ขสมก.พิจารณาเพื่อดำเนินการให้รอบคอบในการประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวีรอบใหม่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบัน ขสมก. อยู่ระหว่างเร่งรัดการดำเนินการ เพื่อให้เปิดประมูลรถเมล์เอ็นจีวีรอบใหม่โดยเร็ว หลังจากนายกรัฐมนตรี กำชับให้จัดซื้อรถเมล์ใหม่มาวิ่งให้บริการภายในปีนี้ แต่ยืนยันว่าการดำเนินโครงการจะต้องโปร่งใส.