ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า จากที่ กสทช. ได้เปิดประมูลโครงการจัดให้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบหมู่บ้าน ในพื้นที่ชายขอบจำนวน 3,920 หมู่บ้าน วงเงิน 13,614.61 ล้านบาท แบ่งเป็น การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 4 สัญญา และการให้บริการมือถือ 4 สัญญา สัญญาวงเงินรวม 13,614.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1-2 ส.ค.60 ที่ผ่านมานั้น ผลปรากฏว่า การประมูลครั้งนี้มีการเสนอราคาต่ำสุด 12,989.68 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 624.93 ล้านบาท หรือ 4.59% โดยบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ 3 สัญญา กลุ่มบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด 3 สัญญา บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท 1 สัญญา และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือไอเทล 1 สัญญา ขณะที่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ไม่ได้แม้แต่สัญญาเดียว
สำหรับผู้ชนะประมูลการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 4 สัญญา ซึ่งเป็นพื้นที่ 4 ภาค ได้แก่ 1.ภาคเหนือ 1 ทรูชนะประมูลในราคา 2,812 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 45 ล้านบาท 2. ภาคเหนือ 2 ทีโอทีเสนอราคาต่ำสุด 2,103 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 20 ล้านบาท 3.ภาคอีสาน ทีโอที ชนะประมูล 2,492 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 50.53 ล้านบาท 4.ภาคใต้ ไอเทลเป็นผู้ชนะประมูลในราคา 1,868 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 20 ล้านบาท
ส่วนผู้ชนะประมูลการให้บริการมือถือ 4 สัญญา แบ่งเป็น 4 ภาคเช่นกัน ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ 1 ทีโอทีเสนอราคาต่ำสุด 1,890 ล้านบาท ลดลงจากราคากลาง 230 ล้านบาท ภาคเหนือ 2 ทรูเสนอราคาต่ำสุด 786.54 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 117 ล้านบาท 3.ภาคอีสาน ทรูเสนอราคาต่ำสุด 532 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 108 ล้านบาท และ 4.ภาคใต้ แคทเสนอราคาต่ำสุด 504 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 32 ล้านบาท
นอกจากนี้ กสทช.เตรียมเสนอผลการประมูลเน็ตชายขอบให้บอร์ด กสทช.พิจารณาในวันที่ 9 ส.ค.60 นี้ เพื่อให้ทันลงนามสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือน ส.ค.นี้ และเริ่มทยอยติดตั้งในเดือน ก.ย. และภายในเดือน ธ.ค.2560 ซึ่งจะต้องติดตั้งได้ไม่น้อยกว่า 15% หรือราว 600 หมู่บ้าน และจะติดตั้งให้ครบ 3,920 หมู่บ้าน ภายในเดือน ก.ย.2561.