นายแอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ Grab สตาร์ทอัพผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารและการชำระเงินผ่านมือถือ กล่าวว่า ล่าสุดแกร็บได้รับการระดมทุนเพิ่มเติมจากตีตี ชูสิง (Didi Chuxing) แพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารรายใหญ่ที่สุดของโลกจากประเทศจีน และซอฟท์แบงค์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (SoftBank Group Corp) ผู้ให้บริการมือถือในญี่ปุ่น รวมเป็นเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้เพิ่มอีก 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้การระดมทุนของแกร็บในครั้งนี้ ทำยอดได้ทั้งสิ้น 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 85,000 ล้านบาท) และถือเป็นยอดเงินระดมทุนครั้งเดียวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสตาร์ทอัพภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “การระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้แกร็บเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในฐานะผู้นำต่อไปได้ โดยปัจจุบันแกร็บครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดบริการเรียกรถแท็กซี่ (แกร็บแท็กซี่) 95% และส่วนแบ่งตลาดบริการเรียกรถโดยสารส่วนบุคคล (แกร็บคาร์) ที่ 71%”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากแกร็บแล้ว ตลาดแอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสารในไทยยังมีผู้แข่งขันรายอื่นๆอีก เช่น อูเบอร์ ซึ่งเน้นให้บริการด้วยรถส่วนบุคคลเป็นหลักและยังไม่มีกฎหมายรองรับ ขณะที่แกร็บ มีทั้งบริการเรียกแท็กซี่ในนามแกร็บแท็กซี่ บริการเรียกมอเตอร์ไซค์ในนามแกร็บไบค์ รวมทั้งบริการเรียกรถส่วนบุคคล หรือแกร็บคาร์ด้วย โดยตลาดแอพฯเรียกแท็กซี่นั้น ขณะนี้แกร็บเป็นเจ้าตลาด มีแอพฯอื่นๆแข่งขันประปราย เช่น ออลไทยแท็กซี่ ของกลุ่มนครชัยแอร์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในสัปดาห์หน้า ไลน์ (LINE) แอพพลิเคชั่นสนทนารายใหญ่ มีกำหนดจะเปิดตัว LINE TAXI อันถือเป็นแอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่รายล่าสุด ที่จะเปิดตัวมาชนกับแกร็บในไทยโดยตลอด.