ครม.อนุมัติ 9 กฎเหล็กตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ หวังได้ตัวอัศวินขี้ม้าขาวช่วยแก้ปัญหาเพิ่มประสิทธิภาพ ดันรัฐวิสาหกิจไทยพ้นปากเหว ห้ามขาด ส.ส., ส.ว., นัก การเมือง คาดตั้งรวด 20 แห่ง ได้ในเดือนก.ค.นี้ ที่ประชุม ครม.วานนี้ (18 ก.ค.) อนุมัติบอร์ดการทางพิเศษการท่าเรือเป็นพบชื่อทหารขึ้นแท่นตามระเบียบ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจเพื่อให้การสรรหาแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจมีหลักเกณฑ์และโปร่งใส โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ใช้กฎเกณฑ์ใหม่มาปฏิบัติทันทีถือเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญ เพราะรัฐวิสาหกิจมีบทบาทสำคัญต่อประชาชน โดยในเดือน ก.ค.2560 นี้ จะมีกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ 20 แห่งที่จะครบวาระ และภายในต้นปีหน้าอีก 36 รัฐวิสาหกิจที่เหลือจะครบวาระ ซึ่งการแต่งตั้งจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ โดยภายในต้นปีหน้าคาดว่าจะเปลี่ยนกรรมการรัฐวิสาหกิจตามเกณฑ์ใหม่ครบ 56 แห่ง
ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าวมี 9 ข้อ คือ 1. การพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจให้นำสมรรถนะ หลักและทักษะความรู้ที่จำเป็น หรือ Skill Matrix ที่เหมาะสมกับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งมาใช้พิจารณา เพื่อให้รัฐวิสาหกิจได้กรรมการตรงกับความต้องการที่แท้จริงในการขับเคลื่อนและพัฒนารัฐวิสาหกิจ แตกต่างจากเดิม บางครั้งกรรมการที่เข้าไปเป็นนักกฎหมายทั้งชุด ทั้งทำกิจการโรงไฟฟ้าที่ต้องการผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องพลังงาน และการเงิน
ข้อที่ 2.การแต่งตั้งกรรมการอื่นที่ไม่ใช่กรรมการโดยตำแหน่งให้พิจารณาเสนอชื่อจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์การทำงานในภาคธุรกิจไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 เพื่อให้มีกรรมการจากภาค ธุรกิจมากขึ้นช่วยยกระดับและปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ 3. ห้ามไม่ให้แต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจอื่นเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจอีกแห่ง เว้นแต่กฎหมายกำหนด หรือรัฐวิสาหกิจนั้นถือหุ้นอีกรัฐวิสาหกิจอยู่ 4.ไม่แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้าราชการการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจเพิ่มเติม แตกต่างจากอดีตที่นักการเมืองจะแต่งตั้งคนของตัวเองเข้าไป แต่ต่อไปคนการเมืองจะเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจไม่ได้
5. ให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังที่เป็นข้าราชการประจำเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการในฐานะผู้ถือหุ้น 6.ให้มีผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดรัฐวิสาหกิจที่เป็นข้าราชการประจำซึ่งไม่อยู่ในหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจนั้น จำนวน 1 คน เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงนโยบายจากกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจและกรณีมีเหตุจำเป็นอาจแต่งตั้งเพิ่มได้อีกไม่เกิน 1 คน
7. กรณีที่กฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจกำหนดให้มีผู้ดำรงตำแหน่งใดในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นเป็นกรรมการ และผู้นั้นจะมอบหมายให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่แทนให้พิจารณามอบหมายผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในหน่วยงานในสังกัดที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีเวลา และเหมาะสมกับความต้องการของรัฐวิสาหกิจนั้น โดยทำเป็นคำสั่งมอบอำนาจที่ชัดเจน 8.กรณีกฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจกำหนดให้มีผู้แทนหน่วยงานต่างๆ เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้หน่วยงานนั้นแต่งตั้งจากบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานเท่านั้น และ 9. ในกรณีที่ส่วนราชการแต่งตั้งข้าราชการประจำไปเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หากข้าราชการผู้นั้นเกษียณอายุหรือพ้นจากการเป็นข้าราชการประจำ ให้แต่งตั้งข้าราชการคนใหม่แทน เว้นแต่พิจารณาเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญในกิจการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐวิสาหกิจนั้นๆ จะยังคงให้เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่อไปจนครบวาระที่ยังเหลืออยู่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรรมการรัฐวิสาหกิจ 20 แห่ง ที่จะครบวาระในปีนี้ คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย โรงงานยาสูบ ครบวาระวันที่ 30 มิ.ย. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครบพร้อมกัน 20 ก.ค. องค์การจัดการน้ำเสีย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การสุรา องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ครบพร้อมกัน 23 ก.ค.โรงงานไพ่ 21 ก.ค. องค์การคลังสินค้า 28 ก.ค. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 29 ก.ค. องค์การเภสัชกรรม 18 ส.ค.และองค์การตลาด 29 ธ.ค.
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติแต่งตั้ง พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธานบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และกรรมการอีก 4 คน คือ พล.อ.อ.ยุทธนา สุกุมลจันทร์, นายเจษฎา พรหมจาต, นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ และนางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ พร้อมทั้งแต่งตั้งนายสุรงค์ บูลกุล เป็นประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรรมการอีก 9 คน คือพล.ร.อ.ชัยณรงค์ เจริญรักษ์, นางปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล, นายจำเริญ โพธิยอด, นายกฤชเทพ สิมลี,นายจุฬา สุขมานพ, นายฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์, นายประเวศ อรรถศุภผล, นางปรารถนา มงคลกุล และชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป.