กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดใช้น้ำมันครึ่งปีแรกโต จากราคาที่ปรับลดลง โดยเฉพาะดีเซล เฉลี่ยที่ 65.4 ล้านลิตร/วัน เบนซิน 29.8 ล้านลิตร/วัน ขณะที่เอ็นจีวี ใช้น้อยลง ปั๊มทยอยปิดตัวต่อเนื่อง...
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 29.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 4.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันกลุ่มเบนซินเกือบทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 โดยน้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.3 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 6.0% และแก๊สโซฮอล์ 91 มีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 10.8 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 3.7%
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 28.6 ล้านลิตร/วัน คิดเป็น 4.8% โดยแก๊สโซฮอล์ E85 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 1.0 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 22.6% เนื่องจากปัจจุบันมีรถยนต์ผลิตใหม่ที่รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 เข้าสู่ท้องตลาดมากขึ้น รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 11.6 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 11.2% เนื่องมาจากราคาที่ปรับตัวใกล้เคียงกันกับแก๊สโซฮอล์ 91 ทำให้ประชาชนเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า ในขณะเดียวกันแก๊สโซฮอล์ E20 มีการใช้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 5.1 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 7.8%
ส่วนการใช้กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (B7) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.4 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 2.3% ถึงแม้ว่าราคาขายปลีกจะปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2559 แต่ปริมาณการใช้ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการเติบโตทางเศรษฐกิจและปริมาณรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงมีปริมาณเพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 อยู่ที่ 16.6 ล้านกิโลกรัม/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 2.3% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ทุกภาคยกเว้นภาคขนส่ง ที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.7 ล้านกิโลกรัม/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 9.5% สำหรับการใช้ในภาคอื่นๆ มีอัตราการใช้เพิ่มขึ้น โดยภาคปิโตรเคมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นสูงที่สุดอยู่ที่ 5.4 ล้านกิโลกรัม/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 12.6% รองลงมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 ล้านกิโลกรัม/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 5.5% และภาคครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.8 ล้านกิโลกรัม/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 1.4%
การใช้ NGV ช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 6.9 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 14.0% โดยการใช้ NGV ลดลงเนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี 2559 ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยมา และส่งผลให้มีสถานีบริการ NGV ทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับการนำเข้าส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 มีปริมาณนำเข้ารวมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ย 6 เดือน อยู่ที่ 868 พันบาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 4.2% โดยมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบคิดเป็น 50,481 ล้านบาท/เดือน สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 74 พันบาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราการลดลง 3.9% และมีมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 4,834 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า มีการนำเข้าน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเบนซินพื้นฐานชนิดที่ 1 น้ำมันเตาและ LPG (รวมโพรเพนและบิวเทน) เฉลี่ยลดลงจากปีก่อน
ขณะเดียวกันพบว่า มีการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐานชนิดที่ 2 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี20 ในประเทศมีปริมาณที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน
ทั้งนี้ภาพรวมยอดใช้น้ำมันในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตที่เพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากราคาที่ปรับลดลง ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดว่ายังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งดูตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของสภาพัฒน์ฯ ที่คาดว่าจะโต 3.2% ดังนั้น การใช้น้ำมันจะเติบโตขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งคาดว่ายอดใช้น้ำมันปีนี้จะเติบโต 3% เทียบกับปีก่อน
สำหรับสถานการณ์การใช้ LPG และ NGV ในภาคขนส่ง ปรับลดลง เนื่องจากรถยนต์หันไปใช้น้ำมันมากขึ้น ปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการ LPG อยู่ที่ 2,091 แห่ง เทียบกับปีก่อนที่ 2,092 แห่ง ส่วนสถานี NGV ปัจจุบันอยู่ที่ 462 แห่ง เทียบกับปีก่อนที่ 487 แห่ง และคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง.