ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งรับคดีไทยทีวี ฟ้อง กสทช. ขอให้เพิกถอนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตทีวีดิจิตอล และให้ชดใช้ค่าเสียหาย ชี้ได้รับความเดือดร้อน เสียหาย...
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. มีรายงานข่าวจากศาลปกครอง ว่า ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 137/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 695/2559 ระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ : กสทช. (ผู้ถูกฟ้องคดี) โดยมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคำฟ้องในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้น รับคำฟ้องในข้อหาที่ฟ้องขอให้ชดใช้ค่าเสียหายไว้พิจารณา เมื่อผู้ฟ้องคดีแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องแล้ว
ทั้งนี้เนื่องจากบริษัท ไทยทีวี เห็นว่า การที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการแทน กสทช.ได้มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัท ไทยทีวี เนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ (ค่าประมูลคลื่นความถี่) และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรายปี เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากบริษัท ไทยทีวี ได้ขอยกเลิกใบอนุญาตไปก่อนแล้ว ทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เนื่องจาก กสทช.ได้แจ้งองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยออกอากาศเผยแพร่ข้อความว่า บริการโทรทัศน์ของบริษัท ไทยทีวี ถูกระงับการออกอากาศชั่วคราวตามคำสั่งทางปกครอง ซึ่งทำให้ประชาชนสับสนว่าบริษัท ไทยทีวี กระทำผิดจึงต้องถูกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต จึงต้องขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและชดใช้ค่าเสียหาย
"กรณีถูกสั่งพักใบอนุญาตย่อมแสดงถึงการไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืนต่อกฎหมาย หรือหลักเกณฑ์ หรือคำสั่งที่ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนด คำสั่งพักใบอนุญาตย่อมนำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาต และมีผลต่อสิทธิและหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีตามที่กำหนดในเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต อีกทั้งผู้ฟ้องคดีอ้างว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายจากคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตและเรียกค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวอีกด้วย จึงถือได้ว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตที่มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ.