Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

เปิดประวัติอาคาร สตง. ย่านจตุจักร ถล่ม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

Date Time: 28 มี.ค. 2568 16:07 น.

Summary

  • อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในย่านจตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้พังถล่มลงมาทั้งหลัง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.1 ริกเตอร์ ซึ่งมีจุดศูนย์กลางในประเทศเมียนมา และแรงสั่นสะเทือนได้แผ่มาถึงกรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13:20 น. เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาขนาด 8.1 ริกเตอร์ ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้โครงสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในย่านจตุจักรได้พังถล่มลงมา 

สำหรับโครงการดังกล่าว มีชื่อว่า โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) มูลค่าโครงการกว่า 2,136  ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ข้อมูลจากเพจ สตง. ระบุว่า โครงการดังกล่าวประกอบด้วยพื้นที่ส่วนอาคารสำนักงานสูง 29 ชั้น พื้นที่สำหรับการใช้งานฝึกอบรมและสัมมนาสูง 3 ชั้น พร้อมด้วยระบบโสตทัศนูปกรณ์ ระบบสื่อสารสนเทศที่ทันสมัย 

โครงการก่อสร้างนี้ดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด 

สำหรับการควบคุมงานก่อสร้างเป็นหน้าที่ของกิจการร่วมค้า พีเคดับบลิว (PKW Joint Venture) ซึ่งประกอบด้วยบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด, บริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด 

รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาจ้างก่อสร้างโครงการดังกล่าว (สัญญาเลขที่ 021/2564) ได้ลงนามเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563  และมีกำหนดเริ่มงานก่อสร้างในวันที่ 15 มกราคม 2564 ระยะเวลาก่อสร้างเดิมกำหนดไว้ 1,080 วัน โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 แต่ได้มีการขยายระยะเวลาออกไปอีก 155 วัน ทำให้กำหนดแล้วเสร็จใหม่เป็นวันที่ 3 มิถุนายน 2567 

การขยายระยะเวลาดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการแก้ไขแบบก่อสร้างในส่วนของ Load Factor, Core Wall และการสัญจรของรถบรรทุกในชั้นใต้ดิน 

สัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างก็มีการขยายระยะเวลาและเพิ่มค่าจ้างเนื่องจากการก่อสร้างล่าช้า โดยระยะเวลาควบคุมงานเพิ่มขึ้น 148 วัน และมีค่าจ้างเพิ่มเติมอีก 9,718,716 บาท 

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังนำร่องเข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เพื่อเป็นแบบอย่างในการแสดงเจตนารมณ์ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)