ไทย-เกาหลีใต้เปิดเจรจาเอฟทีเอ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 ตนได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ โดยเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารขอบเขต (TOR) สำหรับการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-สาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ (EPA) ระหว่างอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล และกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และสาธารณรัฐเกาหลี โดยนายคอนกี โร รมช.ด้านการเจรจาการค้า ซึ่งเป็นการนับหนึ่งอย่างเป็นทางการในการเริ่มต้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) โดยใช้ชื่อว่า “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ” โดย 2 ฝ่ายคาดว่าจะเริ่มการเจรจารอบแรกภายในกลางปี 67 และตั้งเป้าเจรจาเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 68 หรือต้นปี 69

สำหรับการจัดทำ EPA ฉบับนี้ เป็นการต่อยอดจากเอฟทีเอที่ไทยและเกาหลีใต้เป็นสมาชิก ได้แก่ เอฟทีเออาเซียน-เกาหลีใต้ และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ช่วยดึงดูดการลงทุนจากเกาหลีใต้เข้ามาไทยเพิ่มขึ้น เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างการพัฒนาความร่วมมือใหม่ๆ ที่ 2 ฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน เช่น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งในห่วงโซ่การผลิต และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล

ส่วนสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก EPA ฉบับนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และประมง เช่น เนื้อไก่แช่แข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป, ผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง ฝรั่ง และมังคุด, ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ เช่น แป้ง ซอสและของปรุงรส, ผลิตภัณฑ์ไม้ เช่น ไม้แปรรูป พาติเคิลบอร์ด ไม้อัดพลายวูด และเคมีภัณฑ์ ขณะที่สาขาบริการไทยที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ เช่น บริการด้านธุรกิจ บริการการขนส่ง คลังสินค้า และบริการด้านโรงแรมและภัตตาคาร

“เกาหลีใต้แจ้งว่า กระทรวงการค้าฯ ยังได้ประกาศยุทธศาสตร์การค้าใหม่ด้วยการจัดทำเอฟทีเอกับคู่เจรจาสำคัญ รวมถึงไทย หนึ่งในประเทศเป้าหมายที่มีศักยภาพที่เกาหลีใต้ต้องการทำเอฟทีเอด้วย”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่