ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารโลก ได้ออกรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ธ.ค.2566 คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 2566 จะขยายตัว 2.5% และจะขยับขึ้นเป็น 3.2% ในปี 2567 และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับปานกลางที่ 3.1% ในปี 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชนที่มั่นคงขึ้น
ทั้งนี้ ในรายงาน ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของการส่งออกสินค้าและการลดการใช้จ่ายภาครัฐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะชะลอตัวลงโดยเพิ่มขึ้น 1.1% ในปี 2567 เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาอาหารจะเพิ่มขึ้น
สำหรับโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีการวางแผนไว้ ซึ่งมูลค่าโครงการคิดเป็นประมาณ 2.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยหากมีการดำเนินโครงการคาดว่าจะสามารถกระตุ้นการเติบโตในระยะสั้นได้เพิ่มขึ้น 0.5-1% ของจีดีพี ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี 2567-2568 แต่จะส่งผลให้การขาดดุลทางการคลังอาจเพิ่มขึ้นเป็น 4-5% ของจีดีพี ในขณะที่หนี้สาธารณะอาจเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 65-66% ของจีดีพี
วันเดียวกัน ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ปรับลดคาดจีดีพีของไทย โดยปี 2566 สู่ระดับ 2.5% จาก 3.5% ขณะที่ปี 2567 เอดีบีได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงเหลือ 3.3% จากเดิมคาด เติบโต 3.7%.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่