นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไทยและอาเซียนกลายเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะจากเหตุขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมาอาเซียนและไทยเพิ่มขึ้น โดยรายงานเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนในอาเซียนปี 65 (ASEAN Investment Report 2022) ระบุว่า ปี 64 มีเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ไหลเข้าอาเซียนเพิ่มขึ้นถึง 42% มูลค่า 174,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึงความน่าดึงดูดทางเศรษฐกิจของภูมิภาค นอกจากนี้ การคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ล่าสุดปี 66 เศรษฐกิจอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทยจะขยายตัวเฉลี่ย 4.5% ปี 67 ขยายตัว 4.5% มากกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก จึงเป็นโอกาสที่ไทยควรออกมาตรการและลดกฎระเบียบทางการค้า เพื่อให้ง่ายขึ้น รวมทั้งเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ให้มากขึ้น
“แม้ไทยได้ประโยชน์จากการกระจายฐานการผลิตออกจากจีน แต่ไทยก็เผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากเวียดนามและอินโดนีเซีย รวมถึงตลาดที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ ไทยจึงควรมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดการลงทุน โดยเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่การใช้เทคโนโลยีชั้นสูง”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่