ทริสฯ คาด GDP ไทยปีนี้โตแค่ 3% “ท่องเที่ยว” เป็นพระเอก จับตาหนี้สาธารณะพุ่งจากมาตรการรัฐ

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทริสฯ คาด GDP ไทยปีนี้โตแค่ 3% “ท่องเที่ยว” เป็นพระเอก จับตาหนี้สาธารณะพุ่งจากมาตรการรัฐ

Date Time: 17 ต.ค. 2566 16:47 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 เติบโต 3.0% ชะลอลงจากประมาณการครั้งก่อนหน้าที่คาดว่าเติบโต 3.5% ตามการส่งออกสินค้าที่หดตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 3.7% ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนโดยรวม

Latest


สายงานวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2566 เติบโต 3.0% ชะลอลงจากประมาณการครั้งก่อนหน้าที่คาดว่าเติบโต 3.5% ตามการส่งออกสินค้าที่หดตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจในปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 3.7% ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนโดยรวม


ทั้งนี้ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทย มีปัจจัยสนับสนุนหลัก จากการส่งออกบริการ เร่งฟื้นตัวขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น การฟื้นตัวต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชนจากรายได้เฉลี่ยที่ปรับดีขึ้นและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับเพิ่มขึ้น มาตรการภาครัฐที่ช่วยลดค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในปี 2567 ตามการเบิกจ่ายอย่างต่อเนื่องในโครงการลงทุนภาครัฐที่อนุมัติดำเนินการแล้ว และการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัว


ส่วนความเสี่ยงสำคัญ ประกอบด้วย แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจหลักที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ธนาคารกลางในหลายประเทศยังคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวด และกระทบต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงความผันผวนในตลาดทุน และเงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับสูง และความเป็นไปได้ที่หนี้สาธารณะจะปรับสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในปี 2567 ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอาจกระทบการส่งออกสินค้าของไทยมากกว่าคาด ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้นสร้างแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อด้วยปัจจัยด้านต้นทุนกระทบห่วงโซ่อุปทานของโลก บรรยากาศการลงทุน และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว


ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งประเมินว่าการส่งออกบริการยังคงเป็นปัจจัยผลักดันหลักของเศรษฐกิจไทยในปี 2566-2567 โดยคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2566 ที่ 28.5 ล้านคน โดยให้สมมติฐานนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่คนจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง และนักท่องเที่ยวจีนที่กลับเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปี ท่ามกลางจำนวนเที่ยวบินจะปรับดีขึ้น และนโยบายยกเว้นการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567


ขณะที่ในปี 2567 ทริสเรทติ้งคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ 34 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราการฟื้นตัว 85% เมื่อเทียบกับปี 2562 จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวคนจีนและ ไม่ใช่คนจีน โดยนโยบายการเงินของโลกที่ยังเข้มงวด การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง และการฟื้นตัวของเที่ยวบินอย่างช้าๆ เป็นปัจจัยที่ทำให้การฟื้นตัวของตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่


สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลของรัฐบาล จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภาคเอกชนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงที่หนี้สาธารณะจะปรับสูงขึ้นในระยะต่อไป หลังหนี้สาธารณะต่อ GDP ปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายภาครัฐในช่วงโควิด-19 โดยปรับเพิ่มจาก 41.04% ในปี 2562 เป็น 61.1% ในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเพดานหนี้สาธาณณะเดิมที่ 60% ก่อนมีการขยายเป็น 70% ในช่วงปี 2565 ในระยะต่อไปยังมีความเสี่ยงที่หนี้สาธารณะจะปรับสูงขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567


นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 2.5% จนถึงสิ้นปี 2566 ตามการสื่อสารทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ในเดือนกันยายน 2566 โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบเป้าหมายทั้งในปี 2566 และ 2567 และอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าจะพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่อาจได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ