นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจร ทั้งหมด 5 ครั้ง มีผู้มาลงทะเบียนแก้หนี้ประมาณ 500,000 ราย ยอดหนี้ราว 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปัญหาโควิด ปัญหาความขัดแย้งในยุโรปส่งผลต่อต้นทุนพลังงาน ต้นทุนการเงิน พุ่งสูงขึ้น นำมาซึ่งปัญหาเงินเฟ้อ ต้นทุนดอกเบี้ยสูง ทำให้เกิดหนี้ครัวเรือน และหนี้ภาคประชาชนพุ่งสูงขึ้นถึง 89% รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ และกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นภารกิจของกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยมีทั้งสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 7 แห่ง และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีข้อตกลงที่จะร่วมมือกันแก้ไขหนี้ ประนอมหนี้ ให้ประชาชนหลุดพ้นจากกับดักหนี้”
สำหรับการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ จัดขึ้นตั้งแต่ปีที่ 2565 ที่ผ่านมา จำนวน 5 ครั้ง ที่ กรุงเทพฯ, ขอนแก่น, เชียงใหม่, ชลบุรี และสงขลา หากได้ผลการตอบรับดี และยังมีประชาชนต้องการปรึกษาการแก้ไขหนี้ ก็อาจจะมีการจัดงานมหกรรมแก้หนี้อีก แต่ในช่วงนี้ หากประชาชนต้องการปรึกษาการแก้ไขหนี้ สามารถไปติดต่อสาขาของสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินต่อไป.