ก็ถือเป็นข่าวร้ายต่อเนื่องของจีน ที่ออกมาพร้อมกันในปีนี้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจจีนที่เติบโตต่ำกว่าคาดการณ์มาก ต่ำสุดในรอบเกือบ 50 ปี และ ประชากรเด็กเกิดใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ประชากรจีนลดลงเกือบล้านคนในปีที่ผ่านมา แต่ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายที่ผิดพลาดของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผู้นำจีนในเรื่อง นโยบายโควิดเป็นศูนย์
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ เกจิทั้งหลายเชื่อว่าคงไม่ง่าย ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและการเติบโตที่ลดลง ทำให้ความต้องการสินค้าจากจีนลดลง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานเมื่อวันอังคารว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัวเพียง 2.9% เทียบกับปี 2564 ลดลงจากระดับ 3.9% ในไตรมาส 3 ส่งผลให้จีดีพีปี 2565 มีการขยายตัวเพียง 3% จากที่คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัว 5.5% ถือว่าพลาดเป้าไปไกลเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว และเมื่อเทียบกับจีดีพีปี 2564 ซึ่งมีการขยายตัว 8.4% เท่ากับจีดีพีปี 2565 หายไปถึง 5.4% เลยทีเดียว
ยอดการค้าปลีก ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การบริโภคในประเทศ เดือนธันวาคมก็หดตัว 1.8% หลังจากที่ ดิ่งลงไป 5.9% ในเดือนพฤศจิกายน
แม้ผู้นำจีนจะ ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างฉับพลัน ปลายปีที่แล้ว ยกเลิกการกักตัว ยกเลิกการปิดเมือง และเปิดประเทศ หวังฟื้นเศรษฐกิจ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลกว่า 900 ล้านคน จากการยกเลิกมาตรการแบบฉับพลัน ทำให้การเปิดประเทศอีกครั้งในช่วงแรกนี้ ไร้พลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศ เศรษฐกิจโลกก็ถดถอย ทำให้ความต้องการสินค้าจีนลดลง
จีนยังเจอข่าวร้ายที่สอง เมื่อ สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานเมื่อวันอังคารอีกว่า ประชากรจีน ณ สิ้นปี 2565 มีจำนวนลดลง 850,000 คน เทียบกับปีก่อน ตัวเลขนี้นับเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่นับประชากรในฮ่องกง มาเก๊า และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจีน ส่งผลให้สิ้นปี 2565 จีนมีประชากร 1,410 ล้านคน มีเด็กเกิดใหม่ 9.56 ล้านคน มีผู้เสียชีวิต 10.41 ล้านคน
อัตราการเกิดของประชากรจีนปี 2565 อยู่ที่ 6.77 ต่อประชากร 1,000 คน ลดลงจากอัตรา 7.52 ต่อประชากร 1,000 คนในปี 2564 เป็นอัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผมเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ดูจะได้เข้าใจง่ายกว่า ปี 2565 จีนมีอัตราการเกิดเพียง 0.677% หรือ 100 คนมีเด็กเกิดใหม่เพียง 0.677 คน ถือว่าน้อยมาก
แต่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ก็ปลอบใจว่า ประชาชนไม่ควรกังวลต่อการลดลงของจำนวนประชากร เพราะอุปทานด้านแรงงานยังมีเกินความต้องการ ประชากรวัยทำงานของจีนที่มีอายุระหว่าง 16–59 ปี ยังมีอยู่ถึง 875.56 ล้านคน คิดเป็น 62% ของประชากรทั้งประเทศ ประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมีจำนวน 209.78 ล้านคน คิดเป็น 14.9% ข้อมูลสถิติยังแสดงให้เห็นว่า ประชากรในเขตเมืองเพิ่มขึ้น 6.46 ล้านคน เป็น 920.71 ล้านคน คิดเป็น 65.22%
สาเหตุที่ทำให้ประชากรจีนลดลง นอกจาก นโยบายลูกคนเดียว สมัย ประธานเหมา ที่ยกเลิกไปแล้ว สาวจีนยุคใหม่ก็ไม่สนใจที่จะมีลูก มีสาวจีนโพสต์ลงในเน็ตว่า “สาเหตุพื้นฐานที่ผู้หญิงไม่ต้องการมีลูก ไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง แต่อยู่ที่ความล้มเหลวของสังคมและผู้ชาย ในการรับภาระเลี้ยงดูลูก สำหรับผู้หญิงที่ให้กำเนิดลูก ทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเธอตกต่ำลงอย่างมาก รวมถึงชีวิตจิตวิญญาณของพวกเธอด้วย”
นอกจากนี้การค้นหา รถเข็นเด็ก บน เว็บไป่ตู้ ก็ลดลง 17% ในปี 2565 และลดลง 41% นับแต่ปี 2561 การค้นหา ขวดนมเด็ก ก็ลดลงมากกว่า 1 ใน 3 ตั้งแต่ปี 2561
เขียนเรื่องนี้แล้วผมก็คิดถึง ฝรั่งเศส ซึ่งเคยประสบปัญหาประชากรหดเหมือนกัน รัฐบาลฝรั่งเศสแก้ปัญหาด้วยการให้ทุนเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด และให้ทุนการศึกษาจนเรียนจบมหาวิทยาลัย เพื่อลดภาระของพ่อแม่ ส่งผลให้ประชากรฝรั่งเศสกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง.
“ลม เปลี่ยนทิศ”