ข้าวหอมมะลิไทยเสียแชมป์ “ข้าวที่ดีที่สุดในโลก” ให้กับข้าวผกาลำดวนจากกัมพูชา เหตุกลิ่นหอมน้อยกว่า ผู้ส่งออกจี้รัฐเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวไทยให้ดีขึ้น เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนผลิต ไม่เช่นนั้นแข่งขันเพื่อนบ้านไม่ได้ ส่วนปีนี้ส่งออกได้ 7.5 ล้านตัน ปีหน้าคาด 8 ล้านตัน
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ปี 65 (The World’s Best Rice 2022) ระหว่างการประชุมข้าวโลก ที่จังหวัดภูเก็ตว่า ข้าวหอมมะลิผกาลำดวน จากกัมพูชา คว้ารางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกไปครอง ทำให้กัมพูชาครองแชมป์เป็นครั้งที่ 5 ส่วนข้าวหอมมะลิไทยเสียแชมป์ ได้เป็นอันดับ 2 อันดับ 3 คือ ข้าวหอมจากเวียดนาม และอันดับ 4 ข้าวหอมจากลาว โดยปีนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยส่งข้าวหอมมะลิจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าประกวดเพียง 1 ตัวอย่าง จาก 20 ตัวอย่าง จากผู้เข้าประกวดทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย ปากีสถาน จีน และสหรัฐฯ
“ข้าวไทยและกัมพูชาเข้ารอบสุดท้ายเพียง 2 ชาติ น่าเสียดายว่า ข้าวหอมมะลิไทยแพ้ข้าวหอมผกาลำดวน กัมพูชา เป็นการแพ้แบบสูสีมาก ห่างกันเพียง 1 คะแนน จากการสอบถามกรรมการตัดสิน ซึ่งเป็นเชฟใหญ่จากสหรัฐฯบอกว่า แพ้กันที่กลิ่น หลังการหุงแล้ว ข้าวผกาลำดวนกลิ่นหอมมาก แต่ข้าวหอมมะลิไทยกลิ่นอ่อนมาก”
ทั้งนี้ น่าแปลกใจว่าปีนี้ข้าวหอมมะลิไทย กลิ่นไม่หอมเหมือนปกติ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันอาจเพราะน้ำมาก ฝนตกชุก ทำให้ข้าวไม่ได้สร้างกลิ่นที่แรงเหมือนปีก่อนที่ข้าวหอมมะลิไทยชนะเลิศ เพราะมีกลิ่นหอมมาก แต่ไม่เป็นไร ปีหน้า สมาคมจะคัดสรรข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดส่งเข้าประกวด
ดังนั้น การเสียแชมป์ครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าไทยควรปรับปรุงพันธุ์ข้าวเก่าให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแข่งขันกับข้าวหอมของเพื่อนบ้านได้เพราะหลายปีมานี้ ทั้งเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ลาว พัฒนาพันธุ์ข้าวหอมให้มีคุณภาพดีขึ้นมาก และสามารถแข่งขันกับข้าวหอมมะลิของไทยได้
“คาดว่าฤดูการผลิตปี 2565/66 ข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมผกาลำดวนจะแข่งขันกันอย่างรุนแรงในด้านส่งออก เพราะผลผลิตเพิ่มขึ้นมากเหมือนกัน และราคาอาจลดลง ล่าสุดข้าวหอมมะลิไทยราคาส่งออกตันละ 750 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนผกาลำดวนตันละ 720 เหรียญฯ แต่เมื่อได้รางวัล ราคาคงขยับขึ้นอีก”
“การส่งออกข้าวไทยปีนี้คาดว่าจะได้ถึง 7.5 ล้านตัน เพราะไทยกลับมาส่งออกไปอิรักได้มากขึ้นนับล้านตัน ทำให้การส่งออกเดือน พ.ย.-ธ.ค.เฉลี่ยเดือนละ 800,000 ตัน และจะส่งออกได้ระดับนี้ไปจนถึงปีหน้า ที่คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 8 ล้านตัน เพราะมีผลผลิตมากขึ้น เงินบาทไม่แข็งค่าเกินไปที่ 35-36 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ราคาข้าวไทยไม่ห่างจากคู่แข่งมากนัก หรือห่างกันตันละ 20-25 เหรียญฯ จากที่ผ่านมา 70-80 เหรียญฯ คาดว่าปีหน้าราคาข้าวขาวไทย จะเคลื่อนไหวตันละ 410-450 เหรียญฯ ส่วนข้าวขาวเวียดนาม 400 เหรียญฯ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ข้าวหอมมะลิไทยเป็นแชมป์ถึง 7 ครั้ง โดยการประกวดครั้งแรกปี 2552 ข้าวหอมมะลิไทย เป็นแชมป์โลก, ปี 2553 ไทย, ปี 2554 เมียนมา, ปี 2555 กัมพูชา, ปี 2556 กัมพูชาร่วมกับสหรัฐฯ, ปี 2557 ไทยร่วมกับกัมพูชา, ปี 2558 สหรัฐฯ, ปี 2559 ไทย, ปี 2560 ไทย, ปี 2561 กัมพูชา, ปี 2562 เวียดนาม, ปี 2563 ไทย, ปี 2564 ไทย.