การ์ทเนอร์ คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ใช้ทั่วโลกในปี 2566 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 20.7% คิดเป็นมูลค่า 5.918 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 22.2 ล้านล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 4 พ.ย. 37.53 บาทต่อดอลลาร์) เพิ่มจาก 4.903 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18.4 ล้านล้านบาท ในปี 2565 และเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 18.8%
ซิด ณาก รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันและสภาพเศรษฐกิจระดับมหภาคกำลังส่งผลกระทบต่อยอดการใช้จ่ายคลาวด์ โดยระบบคลาวด์คอมพิวติ้งยังคงเป็นปราการหลักด้านความปลอดภัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สามารถรองรับการเติบโตในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน เนื่องจากมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และปรับขนาดได้”
“องค์กรยังใช้จ่ายได้เท่าที่มีงบประมาณอยู่เท่านั้น ซึ่งการใช้จ่ายบนคลาวด์อาจลดลงถ้างบประมาณรวมของไอทีปรับลดลง เนื่องจากคลาวด์ยังเป็นการใช้จ่ายด้านไอทีกลุ่มใหญ่ที่สุดและเป็นไปตามสัดส่วนของงบประมาณ”
การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าบริการ Infrastructure-as-a-service (หรือ IaaS) จะเป็นหมวดการใช้จ่ายคลาวด์ของผู้ใช้ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 29.8% ในปี 2566 และในปีหน้าการใช้จ่ายคลาวด์ในทุกหมวดจะโตขึ้น
“ธุรกิจเดินหน้าเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์กันอย่างต่อเนื่อง โดยบริการ IaaS จะโตต่อเป็นปกติ ตามที่องค์กรกำลังเร่งปรับปรุงระบบไอทีให้มีความทันสมัย สำหรับลดความเสี่ยงและลดต้นทุนให้เหมาะสม ซึ่งการย้ายระบบไปยังคลาวด์ยังช่วยลดรายจ่ายด้านการลงทุนระยะยาว (Capital Expenditures) โดยสามารถทยอยจ่ายเงินสดตามรูปแบบการสมัครใช้ นับว่าเป็นประโยชน์สำคัญท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงินสดมีความสำคัญต่อการรักษาการดำเนินธุรกิจ” ซิด ณาก กล่าวเพิ่มเติม
การ์ทเนอร์ยังคาดการณ์ด้วยว่าบริการ PaaS และบริการ Software-as-a-service (หรือ SaaS) จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องมาจากความท้าทายด้านพนักงานและการมุ่งเน้นไปที่การปกป้องผลกำไรขององค์กร อย่างไรก็ตามการ์ทเนอร์คาดว่าทั้ง 2 หมวดนี้จะยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 โดยบริการ PaaS จะเติบโตที่ 23.2% ขณะที่บริการ SaaS เติบโตที่ 16.8%
“ค่าจ้างที่สูงขึ้นและบุคลากรที่มีทักษะมากขึ้นมีความจำเป็นกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน SaaS ให้ทันสมัย ดังนั้นองค์กรจะเผชิญกับความท้าทายด้านการจ้างงานที่ลดลงเพื่อควบคุมต้นทุน แต่บริการ PaaS สามารถสร้างโค้ดอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อใช้ในแอปพลิเคชัน SaaS ได้ ดังนั้นอัตราการใช้บริการ PaaS จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
“แม้จะมีการเติบโต ความสามารถในการทำกำไร และแรงกดดันจากการแข่งขัน แต่การใช้จ่ายกับคลาวด์จะยังมีอยู่ต่อไปตราบเท่าที่มีการใช้งานคลาวด์ เมื่อแอปพลิเคชันและปริมาณเวิร์กโหลดย้ายไปยังระบบคลาวด์ที่โดยทั่วไปแล้วจะคงอยู่ที่นั่น โดยรูปแบบการสมัครใช้คลาวด์แบบสมาชิกนั้นจะทำให้ธุรกิจเกิดการใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของสัญญาและยังมีแนวโน้มว่าจะสูงเพิ่มขึ้น การใช้จ่ายบนคลาวด์ถือเป็นรายได้รายปี ซึ่งเป็นเสมือนของขวัญที่มอบให้อย่างต่อเนื่องแก่ผู้จัดจำหน่ายคลาวด์” ซิด ณาก กล่าวสรุป