แกะสูตรผ่อนรถยนต์ ผ่อนมอเตอร์ไซค์ ดอกเบี้ยแบบลดต้น ลดดอก มีผลบังคับใช้ ม.ค. 2566 นี้
เรียกได้ว่าเป็นข่าวกันมาสักระยะ หลังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้กำหนดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ใหม่ โดยให้คิดดอกเบี้ยแบบ ลดต้น ลดดอก
ทั้งนี้ รถยนต์ที่ออกใหม่คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 10% ต่อปี รถยนต์มือสอง ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ ดอกเบี้ยไม่เกิน 23% ต่อปี ล่าสุด ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยประกาศดังกล่าวจะมีผลประมาณกลางเดือน ม.ค. 66 นี้
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่า ผู้ที่ออกรถยนต์ และผ่อนกับสถาบันการเงิน และลีสซิ่ง เช่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ในปี 2566 นั้นจะได้อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้น ลดดอก คล้ายๆ กับการผ่อนบ้านนั่นเอง
แต่เดิมหากจะซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ สักคัน ไม่ว่าจะมือหนึ่งหรือมือสอง สถาบันการเงินจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ หรือที่เรียกกันว่า Fixed Rate
เช่น ผ่อนรถยนต์กับไฟแนนซ์ A วงเงิน 300,000 บาท ผ่อน 60 เดือน หรือ 5 ปี ดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% ต่อปี เท่ากับเราต้องผ่อนเดือนละ 6,250 บาท
แต่หากเป็นการคิดดอกเบี้ยลดต้น ลดดอก หรือการคิดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี ที่เรียกว่า Effective Interest Rate ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 66 นั้น
1. ผ่อนมาแล้วไม่เกิน 1 ใน 3 ตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 60% ของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
2. ผ่อนมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 70% ของดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
3. ผ่อนมาแล้วเกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อที่ระบุไว้ในสัญญาได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายใดออกมากำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ไว้เป็นการเฉพาะ ให้กำหนดอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ตามกลไกตลาด โดยคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี ดังนี้
- กรณีรถยนต์ใหม่ต้องไม่เกิน 10% ต่อปี
- กรณีรถยนต์มือสองต้องไม่เกิน 15% ต่อปี
- กรณีรถจักรยานยนต์ต้องไม่เกิน 23% ต่อปี
โดยคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาอาจปรับเปลี่ยนให้ลดลง หรือเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศในทุก 3 ปี
ส่วนผู้ที่ผ่อนรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ อยู่แล้ว ประกาศฉบับใหม่ที่จะใช้ปี 2566 ไม่มีผลกับเรา นั่นก็หมายความว่า คุณก็ต้องผ่อนตามสัญญาเดิม
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องตามดูว่าการคิดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหมที่จะเริ่มในปี 66 นี้จะส่งผลกระทบด้านบวกด้านลบทั้งในฝั่งผู้ให้สินเชื่อและฝั่งผู้กู้เงินอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ หากดอกเบี้ยถูกลง ผู้ปล่อยสินเชื่อน่าจะต้องมีการทบทวน และเข้มงวดกับการปล่อยกู้มากขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ที่แต่เดิมอัตราดอกเบี้ยสูงตามความเสี่ยงของผู้กู้
นั่นก็หมายความว่า ผู้ที่จะออกมอเตอร์ไซค์สักคันเพื่อใช้สัญจรไปมา แต่ฐานะการเงินไม่ค่อยดี ก็ต้องเก็บเงินดาวน์ให้มากขึ้นก่อนจะออกมอเตอร์ไซค์ เพราะมีความเป็นไปได้ที่ท่านจะกู้เงินไม่ผ่าน