ผมเพิ่งจะบ่นอุบอิบไปเมื่อวานนี้ว่า “เงินเฟ้อ” ที่สหรัฐฯยังสูงมาก และเชื่อกันว่าธนาคารกลางลุงแซมจะต้องเหยียบเบรกใช้ยาแรงขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ตามเป้าหมายต้องหยุดเงินเฟ้อให้ได้...เท่าไรเท่ากัน...เพราะความเสียหายจากภาวะเงินเฟ้อจะร้ายแรงที่สุดและแรงกว่ามาก เมื่อเทียบกับ ความเสียหายจากการยอมเจ็บปวดบ้างด้วยการขึ้นดอกเบี้ย
ทำให้ผลกระทบของเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯจะแผ่กว้างออกไปสู่ประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุผลที่โลกทุกวันนี้แคบเหลือเกินมีอะไรก็ถึงกันหมด
แต่สำหรับบ้านเราปัญหาไม่ใช่อยู่แค่เรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น...เนื่องเพราะในห้วงที่พายุเศรษฐกิจถาโถมเข้าใส่นั่นเอง ประเทศไทยก็อยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านในหลายๆเรื่องประเดประดังเข้ามา
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของโครงสร้างประเทศ...เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างชัดเจนมากขึ้นและมากขึ้น
เป็นธรรมดาของมนุษย์ทั่วโลกอยู่แล้วที่ความคิดความเชื่อและวิถีปฏิบัติต่างๆของคนต่างวัยนั้นย่อมไม่เหมือนกัน
การเข้าสู่สังคม “ผู้สูงอายุ” จึงเหมือนการแบ่งขั้วระหว่างคนต่างวัยให้แยกห่างออกจากกันมากขึ้น
ส่งผลให้ความคิดความเชื่อของผู้คนในประเทศไทยแบ่งแยกไปตามกลุ่มอายุ และนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศนี้
บวกกับความก้าวหน้าใหญ่หลวงด้านเทคโนโลยีที่นำโลกและประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ กลายเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาทำให้ “คนต่างวัย” ต่างคนต่างคิดและต่างคนต่างอยู่ในโลกของตัวเอง
ลงเอยด้วยความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ
ด้วยภาพของเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างที่เห็นนี่เอง...ย่อมนำไปสู่ ปัญหา “ทางการเมือง” ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างใหญ่หลวง ตามมาชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยเช่นกัน
ผมจึงรู้สึกอุ่นใจและมีความหวังมากขึ้น เมื่อทราบข่าวว่าผู้บริหารรุ่นใหม่ของ ไทยรัฐ กรุ๊ป ก็รู้สึกห่วงใยและกังวลใจในสถานการณ์ดังกล่าว
ในฐานะที่เราเป็นกลุ่มที่มีสื่ออยู่ในมือครบ ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งออนไลน์ และวิทยุโทรทัศน์ น่าจะมีบทบาทในการสร้างความรู้ความเข้าใจและเป็นสื่อกลางในการที่จะดึงคนไทยให้หันมาร่วมมือกันเพื่อสู้และเอาชนะปัญหาหลักทั้ง 3 นี้อย่างเข้มแข็ง
จะแพ้หรือจะชนะยังไม่รู้ได้ แต่การต่อสู้ร่วมกันย่อมดีกว่าไม่ต่อสู้ หรือสู้แบบตัวใครตัวมันอย่างแน่นอน
นี่เองที่เป็นเหตุผลให้ผู้บริหารรุ่นลูกรุ่นหลานของผม นำโดย “คุณนิค” จิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายงานคอนเทนต์ (CCO) ของ ไทยรัฐ กรุ๊ป ตัดสินใจจัดเสวนาขึ้นในหัวข้อ “ตื่น ฟื้น ฝัน” ซึ่งมีประเด็นในรายละเอียดว่า “สังคมต้องตื่น...เศรษฐกิจต้องฟื้น...การเมืองในฝัน” ขึ้นในวันพรุ่งนี้ (พุธที่ 19 ตุลาคม)
เชื้อเชิญบุคคลที่มีความรู้และมีประสบการณ์ครบถ้วนทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองมาร่วมเสวนาในครั้งนี้ ที่โรงแรม Nikko กรุงเทพฯ
เริ่มจาก ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, คุณ บรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหารเกียรตินาคินภัทร, คุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, คุณ เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)
รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คุณ ธนา เธียรอัจฉริยะ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ธนาคารไทยพาณิชย์ และคุณ ไดอาน่า จงจินตนาการ นักแสดงและพิธีกร โดยมี วิทย์ สิทธิเวคิน และ อรชพร ชลาดล เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผมหวังว่าการเสวนาครั้งนี้คงจะได้คำตอบบางส่วนบางข้อสำหรับโจทย์อันใหญ่หลวง ทั้ง 3 ประเด็น...เศรษฐกิจ...สังคมและการเมือง อันจะเป็นประโยชน์ในการช่วย “ปลุกประเทศไทย” ให้ฝ่าวิกฤติ และก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างมั่นคง ดังที่ ไทยรัฐ ฟอรั่ม คาดหวังไว้
พรุ่งนี้ (พุธที่ 19 ตุลาคม) โปรดติดตามการเสวนาผ่านการไลฟ์สดทาง “เฟซบุ๊ก”, “ยูทูบ” และไทยรัฐออนไลน์ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไปกันด้วยนะครับ.
“ซูม”