นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปี 66 มีปัญหาอย่างแน่นอน และไม่ใช่การคาดคะเน เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ซึ่งเขาอาจจะรอด แต่ตอนนี้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ 3.75% ดอกเบี้ยไทยไม่ถึง 1% หากเราไม่เข้มแข็งพอเงินจะไหลออก และขออย่าไปสู้ค่าเงินแบบญี่ปุ่นที่เสียเงินสำรองไปเยอะ แต่ตอนนี้ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าเหมือนเดิม
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องประเมินเลยว่า ไทยจะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไหร่และต้องกล้าตัดสินใจขึ้น เพราะคนจนไม่ได้สินเชื่ออยู่แล้ว จะมีแต่รายใหญ่ที่ขอกู้และปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ความเชื่อมั่นว่าประเทศนี้ยังลงทุนได้หรือไม่ แต่ผู้ว่า ธปท.ต้องเรียกนายแบงก์มาคุยเพื่อขอความร่วมมือ ไม่ใช่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่เท่าไหร่ แบงก์พาณิชย์ก็ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กันแล้ว และให้ปล่อยกู้ธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย
“อำนาจแบงก์ชาติมหาศาลยังไม่มีบารมี ลองฟันทีเดียว บารมีเกิดเลย ผมให้กำลังใจผู้ว่าเต็มที่ ถ้าต้องขึ้นดอกเบี้ยก็ต้องขึ้น ผมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ตอนนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนแล้วปีหน้าถดถอย คนตัวเล็กเจอปัญหาแน่นอน ให้นายกฯเรียกธนาคารเฉพาะกิจมาเลยอย่าไปจับผิดเรื่องหนี้เสียเพราะเขาช่วยคนตัวเล็ก ถ้าเขาขาดทุนแทนที่จะเอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำให้เอาเงินมาเพิ่มทุนให้เขา ถ้าไม่คิดนอกกรอบคนจนตาย”
นายสมคิดกล่าวต่อว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งออกตาย สงครามทำท่าบานปลาย ขอให้เตรียมเงินไว้ 200,000-300,000 ล้านบาท ทั้งแบงก์พาณิชย์และแบงก์เฉพาะกิจ เพราะรัฐต้องกู้เงิน แต่ขออย่ากู้ไปลงโครงการใหญ่ให้มาลงรากหญ้า เพื่อให้เงินหมุนเวียนและชาวบ้านไม่อดตาย
“เวลานี้ไม่ควรมีความขัดแย้งทุกฝ่ายต้องเข้าหากัน ส่วนจำเป็นต้องตั้งวอร์มรูมเพื่อรับเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือไม่ ที่จริงรัฐบาลมี ครม.เศรษฐกิจ นายกฯสามารถเรียกประชุมได้ทุกเมื่อ เอาคนที่รู้เรื่องจริงจังจริงใจเข้ามาดู ขอย้ำว่า ความจริงใจและข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะคิดแต่เรื่องเลือกตั้ง เพราะกว่าจะเลือกตั้งกลางปีหน้า เวลานี้ให้ผ่านไปถึงกลางปีให้ได้ก่อน อย่าให้ประชาชนต้องลำบาก หากเศรษฐกิจทรุดจะสร้างปัญหาอีกหลายด้าน”.