ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ปี 65 หลังโควิดคลี่คลาย เดินทางง่ายสะดวกขึ้น

• รีวิวอัปเดต "ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ" หลังโควิดคลี่คลาย เดินทางง่ายสะดวกขึ้น
• ควรเก็บ boarding pass หรือ ตั๋วโดยสารเครื่องบินไว้ตลอดเวลาก่อนจะเข้าหรือออกนอกประเทศ
• ข้อแนะนำสำคัญหากข้ามด่านพรมแดนเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย

นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปีที่เราได้เดินทางไปต่างประเทศ จึงมีโอกาสถ่ายทอดข้อมูลสำคัญๆ และถือเป็นการอัปเดตการเดินทางหลังยุคโควิด-19 ที่อยู่กับพวกเรามาอย่างยาวนาน สำหรับผู้กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยว หรือเดินทางไปทำธุระให้ได้เตรียมตัวก่อนเดินทาง ดังนี้

1. หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือ International Vaccination Certificate ที่สามารถขอได้ในแอปฯ หมอพร้อม ปัจจุบันขั้นตอนการขอไม่ยุ่งยาก และรอคอยเอกสารไม่นาน ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวควรพกติดตัวไว้ เนื่องจากบางประเทศ ที่เราเดินทางไปก็อาจจะขอดูข้อมูลการฉีดวัคซีน

ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียนเดินทางไปเวียดนามเมื่อต้นเดือน ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ตอนขากลับเข้าประเทศไทยเจ้าหน้าที่เคาเตอร์เช็กอินก็ขอดูหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดด้วย อย่างไรก็ขอแนะนำให้ปรินต์ติดตัวไว้ หรือเซฟเก็บเป็นรูปภาพไว้ในโทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน

2. ศึกษาข้อกำหนดของแต่ละประเทศที่เราจะเดินทางไป เนื่องจากบางประเทศยังต้องใช้หลักฐานการตรวจโควิด และประกันโควิดอยู่

3. ควรเผื่อเวลาเช็กอินขึ้นเครื่อง เนื่องจากการตรวจสัมภาระอาจจะต้องใช้เวลาโดยเฉพาะช่วงที่คนเดินทางเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญการผ่านด่านตม.ก็ต้องใช้เวลาด้วยเช่นกัน เนื่องจากช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติที่เราเคยทำได้ด้วยตัวเองนั้นอยู่ระหว่างการปรับปรุง และไม่เปิดให้บริการ เพราะไม่รองรับ passport รุ่นใหม่

4. เมื่อเดินทางไม่ว่าจะทั้งขาไปและขากลับ ควรเก็บ boarding pass หรือตั๋วโดยสารเครื่องบินไว้ตลอดเวลา เพราะหลายประเทศไม่มีการกรอกเอกสารเข้า ออกประเทศแล้ว แต่จะมีการขอดู boarding pass และซักถามก่อนเข้าประเทศ

5. หากเป็นการข้ามด่านพรมแดนเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซียนั้น แนะนำให้ตรวจดูการปั๊มตราประทับของตม.เข้า-ออกของไทย และประเทศจุดหมายปลายทางให้ละเอียด เพื่อความมั่นใจในการเดินทางว่ามีตราประทับเข้าออกอย่างถูกต้อง 

6. ก่อนเดินทางควรตรวจ ATK ด้วยตนเองก่อน และถ่ายรูปเอาไว้เพื่อความอุ่นใจของตัวเอง และเพื่อนร่วมทาง

7. การนำเจลล้างมือ หรือแอลกอฮอล์ขึ้นเครื่องบินสามารถทำได้แต่ต้องมีปริมาณความจุไม่เกิน 350 มิลลิลิตร หรือ 12 ออนซ์ และต้องมีปริมาณรวมกัน ทั้งของเหลว เจล สเปรย์อื่นๆ สูงสุดได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร ซึ่งเราแนะนำให้ใส่ถุงซิปล็อกมาด้วยจะดีมาก

แต่ถ้าเป็นการโหลดใต้เครื่องบิน ปริมาณความจุไม่เกิน 500 มิลลิลิตร หรือ 17 ออนซ์ มีปริมาณรวมกัน หรือรวมกับของเหลว เจล สเปรย์อื่นๆ สูงสุดได้ไม่เกินคนละ 2,000 มิลลิลิตร แต่ต้องมีปริมาตรรวมกันสูงสุดคนละไม่เกิน 2 ลิตร หรือ 2,000 มิลลิลิตร แนะนำให้ใส่ถุงซิปล็อก

8. ปัจจุบันบนเครื่องบินสามารถรับประทานอาหารได้แล้ว แต่แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สายการบิน รวมถึงดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษอีกด้วย

9. หลังจากกลับมาจากต่างประเทศแล้ว แนะนำให้สังเกตอาการ และเพิ่มการตรวจ ATK ให้ถี่ขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง และคนรอบข้างนั่นเอง

ผู้เขียน : กมลทิพย์ หิรัญประเสริฐสุข kamonthip.h@thairathonline.co.th 
กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun