ม.หอการค้าไทยเปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่งครึ่งปีหลัง รับเปิดประเทศ–ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่–กระแสรักสุขภาพ ขณะที่น้ำมันแพงทำให้คนออกจากบ้านน้อยลง จึงสั่งอาหารและช็อปออนไลน์มากขึ้น หนุนให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจการแพทย์และความงาม, ธุรกิจแพลตฟอร์มตัวกลาง หรือตลาดกลางออนไลน์โดดเด่นจับตา ธุรกิจ E–Sports เริ่มแรงจากแนวโน้มตลาดโต รวมทั้งธุรกิจจัดทำ คอนเทนต์ youtuber influencer และการรีวิวสินค้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งครึ่งหลังปี 65 พบว่าจากการเปิดประเทศ และการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนใหม่เริ่มปฏิบัติงาน รวมทั้งความต้องการซื้อสลากดิจิทัลมาแรง ทำให้คนเข้าถึงแอปพลิเคชันมากขึ้น จึงเป็นตัวเร่งกระแสดิจิทัลเพิ่มขึ้น รวมถึงกระแสกัญชงและกัญชาที่ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ครึ่งหลังปี 65 มี 10 ธุรกิจใหม่โดดเด่นขึ้น ดังนี้ อันดับที่ 1 ธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจ e-commerce เพราะกระแสการดูแลสุขภาพการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังโควิด
อันดับ 2 ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็ก ทรอนิกส์) และธุรกิจโลจิสติกส์ จัดส่งสินค้า และคลังสินค้า 3.ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต และธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ 4.ธุรกิจ E-Sports, ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment จากตลาดเกมมิงและอีสปอร์ตเติบโตต่อเนื่องในกลุ่มเจน Z และวัยทำงาน 5.ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ youtuber influencer และการรีวิวสินค้า รวมถึงธุรกิจ Media ธุรกิจสื่อโฆษณา
6.ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ และธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี และธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจรับจัดงานอีเวนต์ 7.ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน 8.ธุรกิจห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และธุรกิจสมุนไพรไทย เช่น กัญชง กัญชา ใบกระท่อม 9.ธุรกิจสถานบันเทิงและธุรกิจยานยนต์ 10.ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบและธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
“10 ธุรกิจเด่นในครึ่งปีหลังมาจากกระแสการเปิดประเทศ, ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่, ราคาน้ำมันแพงทำให้คนไม่ออกจากบ้าน เดินทางน้อยลง หาความสุขในบ้านมากขึ้น สั่งอาหารและซื้อสินค้าออนไลน์ ดังนั้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ดีลิเวอรี, youtuberinfluencer, ธุรกิจ E-Sports ซึ่งทำให้ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มต่างๆเป็นที่ต้องการ จึงเป็นส่วนหนุนให้ 10 ธุรกิจดังกล่าวยังแรงในครึ่งปีหลัง”
ขณะที่ 10 ธุรกิจดาวร่วง ประกอบด้วย 1.ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร 2.ธุรกิจฟอกย้อม 3.ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก 4.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร 5.ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน 6.ธุรกิจโรงพิมพ์/การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ 7.ธุรกิจคนกลางและธุรกิจผลิตและขายต้นไม้/ดอกไม้ประดิษฐ์ 8.ธุรกิจ call center และธุรกิจเครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก
9.ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล และ 10.ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ขายหนังสือ และธุรกิจร้านถ่ายรูป
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้นมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น จากการที่ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ ทำให้ธุรกิจต่างๆ หันมาทำกิจกรรมตามปกติ อีกทั้งคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยซื้อหาสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ บ้านในแนวราบ และอื่นๆ เพื่อสอดรับกับเศรษฐกิจที่จะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ ประกอบกับในช่วงปลายปีไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆฟื้นตัว นอกจากนี้ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ไม่ต้องกักตัว ยกเลิกระบบ Test&Go รวมถึงการแก้กฎหมายปลดล็อกกัญชา-กัญชง จะช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยหน้าใหม่.