เศรษฐกิจปีหน้าจะลูกผีลูกคนกันนะ เราลองไปส่องมุมมองของ 3 นักเศรษฐศาสตร์ไทย ในงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี 2564 ที่จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ “ทางรอด 2022” Survival Guide ในช่วงสัมมนาหัวข้อ “แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2565”
ท่านแรก ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้เหมือนเสือนั่งหมอบเลียแผล
จากพิษจีดีพีที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขยายตัวต่ำที่สุดในอาเซียนกลายเป็น “Sick man of Asia” คนป่วยของเอเชีย
เนื่องจากภาคการท่องเที่ยว เครื่องยนต์หลักๆยังไม่กลับมา
แต่ปีหน้าจะเป็น “เสือที่พร้อมกระโจน” ไปข้างหน้า จากการคาดการณ์จีดีพีจะเติบโตที่ 3.8%
ด้วยการฟื้นตัวของภาคส่งออกตามเศรษฐกิจโลกและการท่องเที่ยวที่จะกลับมา
แต่เป็นการเติบโตที่ยังกระจายไปไม่ทั่วถึง กำลังซื้อยังอยู่แค่ระดับกลางบน ขณะที่ระดับล่างยังอ่อนแอ ยังมีคนจำนวนมากที่ขาดรายได้
ภาครัฐจึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เชื่อว่ามาตรการที่จะทำ ทำได้มากกว่าการแจกเงิน
ต้องเป็นนโยบายทำให้เกิดการจ้างงาน หรือจ้างงานแลกเงิน
ปัจจัยที่ต้องระวังในปีหน้า โดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
ยังเป็นแรงกดดันเศรษฐกิจโลกที่จะกระทบชิ่งต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน
ท่านที่สอง ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร (KKP) คาดว่าปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.9% ภายใต้ความไม่แน่นอนที่มีค่อนข้างมาก
ปัจจัยชี้วัด มี 2 ปัจจัยหลัก คือ การระบาดของโควิดจะกลับมาอีกหรือไม่ และภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้แค่ไหน
แค่หวังว่าปีหน้าอย่าให้มีการระบาดระลอกใหม่ของโอมิครอน จนต้องเข้าสู่โหมดชัตดาวน์กันอีกรอบ
โดยมองตรงกันว่า การท่องเที่ยวจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยในปีหน้า 5.8 ล้านคน
แต่ถ้าการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเหมือนปี 2564 จะเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยง
เติบโตไม่ถึง 3.9% ตามที่คาดการณ์กันไว้
พร้อมเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจของชาวบ้านชาวช่องเขาเหมือนคนอื่นเขาปาร์ตี้กันอยู่ แต่เราไม่ได้ enjoy เผลอๆต้องไปล้างจานให้เขาด้วย
ท่านสุดท้าย ดร.ชนินทร์ มโนภินิเวส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านโครงสร้างพื้นฐานธนาคารโลกประจำประเทศไทย เชื่อว่าการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า ภาครัฐจะมีบทบาทสูงมาก นอกจากเป็นผู้จ้างงานแล้วยังเป็นพื้นฐานของฐานรากที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่
ดังนั้น ภาครัฐต้องโฟกัสให้ดีว่าต้องช่วยเหลือใคร เช่น เจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่ชุมชน สร้างความแข็งแกร่งระดับชุมชนให้มีศักยภาพขึ้นมา
สิ่งที่ต้องจับตาคือความไม่แน่นอนของการขนส่ง และปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
มุมมองของ 3 นักเศรษฐศาสตร์ที่ค่อนข้างตรงกันเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทะยานไปได้
หากรัฐวางนโยบายกระตุ้นได้ชาญฉลาดพอ.
เพลิงสุริยะ