เศรษฐกิจไทยเริ่มมีแรงฟื้นตัวต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดประเทศ 1 พ.ย. ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันอังคารลดลงเหลือ 2,862 คน ต่ำกว่า 3,000 คน เป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี วันเดียวกัน ธนาคารโลก (ประเทศไทย) ได้ออกรายงาน “ตามติดเศรษฐกิจไทย ธ.ค.64 : อยู่กับโควิดในโลกยุคดิจิทัล” คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวได้ 1% เท่าประมาณการเดิม หลังจากที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ไปแล้ว คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเท่าก่อนเกิดโควิดในช่วงปลายปี 2565 โดยคาดว่า จีดีพีปี 2565 จะเติบโตได้ 3.9% และ ปี 2566 จะเติบโตเพิ่มเป็น 4.3% จากแรงส่งภาคการส่งออก การบริโภคในประเทศ และการท่องเที่ยวที่จะกลับมา
ก็ถือเป็น ข่าวดีส่งท้ายปี นอกเหนือจาก ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล ที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีกรอบ ให้กินดื่มฉลองข้ามปีกันไปเลย
คุณเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาถึง 7 ล้านคน ในปี 2565 และ เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน ในปี 2566 ประมาณครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวในปี 2562 การท่องเที่ยวจะช่วยส่งผลต่อการเติบโตของจีดีพีได้ 2% ในปี 2565 และเพิ่มเป็น 4% ในปี 2566 ส่วน การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวเกือบ 4% ในปี 2565 และปี 2566
แต่สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือ หากมีการระบาดใหม่อีกรอบ และ เป็นสายพันธุ์ใหม่ อาจทำให้ควบคุมได้ยาก จนรัฐต้องออกมาตรการจำกัดการระบาด จำกัดการเดินทาง อาจทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2565 กลับมาติดลบ 0.3% และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจช้าออกไป 1 ปี
คุณเกียรติพงศ์ บอกว่า การประมาณการเศรษฐกิจไทยครั้งนี้ ได้นำเรื่อง “ดิจิทัล” เข้ามาประมาณการด้วย โดยคำนึงถึงการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจที่นำเทคโนโลยีมาช่วย เช่น การทำงานที่บ้านหรือเวิร์กฟรอมโฮมในช่วงโควิด การเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการเยียวยาภาครัฐ ไทยถือเป็นประเทศแรกๆที่มีการนำฟินเทคมาใช้ ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด มีพร้อมเพย์ มีฐานข้อมูลการชำระเงิน และมองว่า โครงสร้างเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้จะถูกขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล จึงต้องเร่งพัฒนาทักษะแรงงาน เพราะปัจจุบันแรงงานไทยยังขาดทักษะดิจิทัลที่เป็นภาคบริการ
ข่าวดีอีกข่าวของไทยในสายตาของธนาคารโลกก็คือ คุณเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้บริการดิจิทัลรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30% นับตั้งแต่โควิดระบาดในเดือนมีนาคม 2563 และ มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสูงถึง 90% ซึ่ง สูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค รองจากสิงคโปร์
ปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจไทย ธนาคารโลก มองมุมเดียวกับ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย คือ มีหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งจะเป็น อุปสรรคต่อการใช้จ่าย และ เป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กนง.ขอให้เร่งผลักดันมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ภาระหนี้สูงอย่างต่อเนื่อง ให้สถาบันการเงินเร่งปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนแก่ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ ควบคู่กับการฟื้นฟู เพื่อให้หลุดจากกับดักหนี้ในที่สุด
ในด้าน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ผมเห็นว่า ครึ่งปีแรก 2565 รัฐบาลยังคงต้องกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะฟื้นตัวชัดเจน คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีคลัง เปิดเผยว่า ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปี เป็น ของขวัญปีใหม่ ไว้เรียบร้อยแล้ว ให้นำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาหักลดหย่อยภาษีได้ จะเป็นวงเงินเท่าไหร่ยังไม่รู้ คงไม่น้อยกว่าช้อปดีมีคืนคนละ 30,000 บาท ถ้าใจดีให้มากกว่านี้ คนละ 40,000-50,000 บาท จะยิ่งกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นเร็วขึ้นแน่นอน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”