ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ โดยพบว่าแม้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากการระบาดที่อาจรุนแรงขึ้น และจากการกลายพันธุ์ของโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศที่กระจายวัคซีนล่าช้า ฯลฯ ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดความเสี่ยงจากการลงทุน ฯลฯ
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า และมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญจากการระบาด และมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้าจะเผชิญกับความเสี่ยงด้านต่ำต่อเนื่อง เช่น 1.การกลายพันธุ์ของไวรัส ที่ลดทอนประสิทธิภาพของวัคซีน 2.ฐานะทางการเงินของธุรกิจ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดกิจการ และเลิกจ้างแรงงานจำนวนมากในระยะต่อไป 3.ปัญหาการระบาดในโรงงานและการขาดแคลนวัตถุดิบชั่วคราว ที่คาดว่าจะคลี่คลายภายในครึ่งแรกของปี 2565 ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกมากกว่าที่คาดไว้
ขณะที่รายได้และฐานะทางการเงินของลูกหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เปราะบางอยู่เดิมแย่ลงอีก ส่งผลให้จำนวนลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงชำระหนี้ไม่ได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นขณะที่โจทย์สำคัญของเศรษฐกิจไทยยังเป็นการเร่งควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค โดยเฉพาะการเร่งจัดหาวัคซีน และกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง, การใช้มาตรการการคลังที่เร่งเยียวยาและพยุงเศรษฐกิจ เน้นการจ้างงานและช่วยภาคธุรกิจ โดยไม่ต้องกังวลสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ.