นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกสินค้าไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ (เดือน ม.ค.-มิ.ย.) ว่า มีมูลค่า 40,244 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 34.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตสอดคล้องกับการส่งออกรวมของไทย เพราะเศรษฐกิจโลก และคู่ค้าเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิเอฟทีเอ 38,329 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 34.27% และมูลค่าการใช้สิทธิจีเอสพี 1,914 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 35.63% ขณะที่เดือน มิ.ย.64 มีมูลค่าการใช้สิทธิรวม 8,380 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 10.61% เป็นเอฟทีเอ 8,057.30 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 76.49% และจีเอสพี 323.50 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 60.78%
สำหรับการใช้สิทธิเอฟทีเอ มีการใช้สิทธิส่งออกไปอาเซียนสูงสุด 13,439 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 41.61% ตามด้วยจีน 12,734 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 33.10%, ออสเตรเลีย 4,270 ล้านเหรียญฯ เพิ่มกว่า 40%, ญี่ปุ่น 3,485 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 2% และอินเดีย 2,336 ล้านเหรียญฯ เพิ่มกว่า 50% โดยมีสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ, รถยนต์ขนส่งบุคคล, ผลไม้ ฝรั่ง มะม่วง มังคุด, ลวดทองแดง, ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง, ยางธรรมชาติ, ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโต ชนิดกระป๋อง ขณะที่การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้จีเอสพีทั้ง 4 ระบบ คือ สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช รวมถึงนอร์เวย์ เป็นการใช้สิทธิส่งออกไปสหรัฐฯ มากสุดที่ 1,705 ล้านเหรียญฯ เพิ่ม 44.59% ตามด้วยสวิตเซอร์แลนด์ 132 ล้านเหรียญฯ ลด 10.19%