น.ส.พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ อัตราการว่างงานรายไตรมาสของไทยสูงที่สุดในรอบ 5 ปี และสูงที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด โดยอยู่ที่ 1.96% จากในภาวะปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1% และการประกาศจ้างงานออนไลน์ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มการระบาดในระลอกที่ 4 ยังลดลง 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ม.ค.63 ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นระบาดด้วย โดยคาดว่าภายในครึ่งปีหลัง จำนวนประกาศจ้างงานน่าจะลดต่ำลงมากกว่า 50% หากยังไม่สามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาความต้องการแรงงานในประเทศไทย ทั้งจาก บนแพลตฟอร์มหางาน และช่องทางสื่อกลางออนไลน์อื่นๆ ในช่วงครึ่งแรก ของปี 64 พบว่า เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยมีอัตราการแข่งขันที่ 80 ใบสมัครต่อ 1 ประกาศงาน เนื่องมาจากผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวรับกับการระบาด และมั่นใจว่าเมื่อการระบาดระลอก 3 ช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย.64 สิ้นสุดลง ทุกอย่างจะกลับมาเดินหน้า จึงจ้างงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่เมื่อเกิดการระบาดรุนแรงมากขึ้น เชื่อว่าในครึ่งปีหลังอัตราการแข่งขันจะสูงขึ้นเป็น 100 ใบสมัครต่อ 1 ประกาศงาน เนื่องจากการจ้างงานจะลดลงยาวไปจนถึงสิ้นปี ยกเว้นจะสามารถควบคุม การระบาดให้ลดลงได้ โดยสายงานเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบเลยคือ สายงานด้านไอที ซึ่งเป็นที่ต้องการเสมอและอัตราเงินเดือนเติบโตต่อเนื่อง
รายงานของจ๊อบส์ ดีบี เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก กลุ่มสายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดยังคงเป็น 1.สายงานขาย บริการลูกค้า และพัฒนา ธุรกิจ คิดเป็น 15.3% 2.สายงานไอที 14.8% 3.สายงานวิศวกรรม 10.0% ตาม ลำดับ ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่เริ่มฟื้นตัวและต้องการแรงงานเพิ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 2.กลุ่มธุรกิจประกันภัย 3.กลุ่มธุรกิจการผลิต.