World Bank หั่น GDP ไทยปี 64 เหลือ 2.2% แนะรัฐต้องเร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง

Economics

Analysis

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

World Bank หั่น GDP ไทยปี 64 เหลือ 2.2% แนะรัฐต้องเร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง

Date Time: 15 ก.ค. 2564 15:41 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • ธนาคารโลก ปรับประมาณการณ์ GDP ไทยปี 64 เหลือ 2.2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 3.4% พร้อมแนะรัฐต้องเร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง

Latest


ธนาคารโลก ปรับประมาณการณ์ GDP ไทยปี 64 เหลือ 2.2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 3.4% พร้อมแนะรัฐต้องเร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารโลก หรือ World Bank ได้เผยแพร่รายงานตามติดเศรษฐกิจไทย เส้นทางสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจฉบับล่าสุด เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยยังคงถูกกระหน่ำอย่างหนักต่อไปอีกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวได้เพียง 2.2% ในปี 2564 ซึ่งปรับลดลงจาก 3.4% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มี.ค. 64 ที่ผ่านมา โดย World Bank มองว่า การให้ความช่วยเหลือคนยากจนและกลุ่มเปราะบาง รวมถึงแรงงานนอกระบบ ยังจำเป็นต้องดำเนินการต่อไปเนื่องจากโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเศรษฐกิจดูซึมลงเป็นผลมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกสามนี้ที่มีต่อการบริโภคภาคเอกชน และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามามีจำนวนที่ต่ำมากจนถึงสิ้นปี 2564 ประเทศไทยมีสถิติจำนวนการเข้ามาของนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนในปี 2562 แต่จำนวนที่คาดการณ์สำหรับปี 2564 ถูกปรับลดลงอย่างมากจาก 4-5 ล้านคนเหลือเพียง 6 แสนคนเท่านั้น

เบอร์กิต แฮนเซิล ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน รายได้ และความยากจน แต่การรับมือด้วยมาตรการความคุ้มครองทางสังคมที่ครบถ้วนของรัฐบาลส่งผลเป็นที่น่าพอใจในการบรรเทาผลกระทบ โดยพื้นที่การคลังของประเทศไทย ยังคงมีเพียงพอสำหรับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือคนยากจนและผู้ที่ลำบากมากที่สุดในช่วงเวลาหลายเดือนข้างหน้า"

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีการดำเนินการที่ค่อนข้างดีในแง่ของระดับและความรวดเร็วในการรับมือด้านการคลัง รัฐบาลได้ขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชนจากเดิมที่อยู่ในระดับไม่มากนักมาเป็นชุดของมาตรการให้เงินเยียวยาในระดับแถวหน้าของโลกเพื่อการรับมือกับโควิด-19 การจำลองสถานการณ์เบื้องต้นบ่งบอกว่าจะมีคนจนเพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 780,000 คนในปี 2563 หากรัฐบาลไม่ได้เพิ่มความช่วยเหลือทางสังคม

ฟรานเชสกา ลามานนา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก กล่าวว่า วิกฤติในปี 2563 แสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศไทยในการใช้งานระบบเลขประจำตัวประชาชนดิจิทัลที่เข้มแข็งและครอบคลุม ระบบดิจิทัลที่รองรับการใช้งานได้ดีและทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ และฐานข้อมูลเพื่อการบริหารงานภาครัฐจำนวนมากในการคัดกรองผู้มีคุณสมบัติสำหรับมาตรการให้เงินเยียวยาที่ออกมาใหม่ ก้าวต่อไปของประเทศไทยจะต้องอาศัยการผนึกกำลังความพยายามต่างๆ เหล่านี้และการเตรียมพร้อมให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อรับมือกับวิกฤติ โดยการจัดตั้งระบบการลงทะเบียนทางสังคม

เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทยของธนาคารโลก กล่าวว่า มาตรการตรวจเชื้อ สืบย้อน กักตัวที่เหมาะสม และการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด ให้ทั่วถึงจะมีความจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ กระตุ้นการเพิ่มการเคลื่อนย้ายและการบริโภคภายในประเทศให้ต่อเนื่อง และเพื่อให้ประเทศสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ในระยะยาว การปฏิรูปเพื่อลดต้นทุนและอุปสรรคการค้าจะช่วยให้ไทยได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 

รายงานของ World Bank ระบุด้วยว่า รัฐบาลควรต้องลงทุนในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบความคุ้มครองทางสังคมของประเทศ สิ่งสำคัญอันดับแรกในอนาคตอันใกล้คือการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง โดยดูแลให้มีการให้ความช่วยเหลือตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผลเพื่อจำกัดภาระทางการคลังโดยรวมอีกด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ