TOP 50 แบรนด์ไหนเป็นดาวรุ่งบ้าง ? เปิดอันดับมูลค่าแบรนด์สูงสุดปี 2024 NVIDIA หน้าใหม่ติดโผ

Interbrand ผู้จัดทำข้อมูลวิเคราะห์และประเมินมูลค่าแบรนด์ระดับโลก จัดอันดับมูลค่าแบรนด์สูงสุดประจำปี 2024 โดยภายในรายงานรวบรวมแบรนด์ที่ควรจับตามอง รวมถึงแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาในลิสต์หน้าใหม่ (New Entrants)โดยมีแบรนด์ที่น่าสนใจอย่างบิ๊กเทคมูลค่าสูงสุดในโลกอย่าง Nvidia, Pandora, Range Rover และ Jordan

โดยมีวิธีการประเมินมูลค่าแบรนด์จาก 3 ด้าน ได้แก่ 1) บทบาทของแบรนด์ (Role of Brand) รายได้และผลกำไรทางเศรษฐกิจ, 2) การคาดการณ์ทางการเงิน (Financial Forecast) บทบาทของแบรนด์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อและปัจจัยการตลาดอื่นๆ และ 3) ความแข็งแกร่งของแบรนด์ (Brand Strength) ความจงรักภักดีต่อแบรนด์และมีผลต่อกำไรในระยะยาว

ในปีนี้กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ยังครอง 4 อันดับแรก นำโดย Apple ด้วยมูลค่าแบรนด์ 4.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วย Microsoft มูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ, Amazon มูลค่า 2.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Google มูลค่า 2.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามในปีนี้เครือ Meta อย่าง Instagram ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 15 จากอันดับที่ 16 ในปีก่อนด้วยมูลค่า 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ Facebook อยู่ในลำดับที่ 21 เหมือนปีก่อนด้วยมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปีนี้ (Fastest Riser) นำโดยกลุ่มยานยนต์ ได้แก่ Ferrari, KIA, Hyundai, Toyota กลุ่มแฟชั่นและความงาม ได้แก่ Prada, Sephora, Hermes กลุ่มเทคโนโลยี Youtube, Instagram, Adobe, Google, Spotify, LG Electronics รวมถึงภาคการเงินและประกันอย่าง Visa และ Allianz

แบรนด์วางตัวเองอยู่ในหลายอุตสาหกรรม

ในปีนี้แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในเวทีการแข่งขันมากมายที่ก้าวข้ามขอบเขตของอุตสาหกรรมหรือหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิม บริษัทต่างๆ เช่น Apple, Ferrari และ Disney ทลายขอบเขตและก้าวสู่ผลิตภัณฑ์บริการใหม่ ๆ เปิดเส้นทางสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด 

รายงานชี้ให้เห็นถึงปัจจัยภายนอกอย่างความไม่แน่นอนระดับโลกที่ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลต่อภูมิทัศน์การสร้างแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ หลายแบรนด์เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกลยุทธ์การตลาดระยะสั้นมากกว่าการลงทุนในระยะกลางและระยะยาว นอกจากนี้ปัจจัยด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและ AI ได้เข้ามาลดระยะห่างระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ในโลกยุคใหม่ ธุรกิจ แบรนด์ และบรรดาอินฟลูเอนเซอร์มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ใครก็ตามที่มีสมาร์ทโฟนก็สร้างแบรนด์ได้ ทำให้การสร้างแบรนด์และการจัดการแบรนด์กลายเป็นกระแสหลักมากกว่าที่เคย การสื่อสารของแบรนด์ไม่ใช่แค่การส่งข้อความแต่ต้องไปถึงจุดที่สร้างบทสนทนาที่แท้จริงกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้

นอกจากนี้บทเรียนที่ได้จาก 2024 หากธุรกิจและองค์กรต้องการโดดเด่นอย่างแท้จริง พวกเขาไม่สามารถพึ่งพาคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ ราคา หรือที่ตั้งของร้านค้าได้เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันในราคาที่สามารถแข่งขันกันได้อย่างง่ายดาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความจงรักภักดีของผู้บริโภคไม่ได้เป็นสิ่งที่กำหนดการมีส่วนร่วมต่อแบรนด์ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้ว่าผู้บริโภคจะชื่นชอบในแบรนด์อยู่แล้ว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นกว่าเดิม การสำรวจตัวเลือกใหม่ ๆ เป็นเรื่องง่ายและมีต้นทุนที่ต่ำลง

“แบรนด์ดิ้ง” กลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างและสร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภคได้ในระยะยาว และเป็นสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวที่ไม่สามารถเลียนแบบได้

อ้างอิงข้อมูล Interbrand 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   

https://www.facebook.com/ThairathMoney