ก๊อก ฟาง ชวา ซีอีโอ บริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการเลือกสินค้าในกลุ่มไลท์ติ้งของผู้บริโภค จะเปลี่ยนไปตามปัจจัยด้านหลัก ๆ คือเรื่องเทรนด์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคใหม่ และเรื่องเทคโนโลยีที่การใช้งานจะต้องตอบโจทย์เพิ่มความสะดวก แต่มีความคุ้มค่าในเวลาเดียวกัน เราจึงมีแผนที่จะทำตลาดอุปกรณ์แสงสว่างมูลค่า 20,000 ล้านในประเทศไทย
ทั้งนี้เรเซอร์ มีประสบการณ์ทำตลาดให้ลูกค้าคนไทยมานานกว่า 50 ปี จุดเด่นของแบรนด์คือการพัฒนานวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง, ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสากล รวมถึงจุดแข็งเรื่องราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากผลิตภัณฑ์ AI LAMP VOICE CONTROL ที่ลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะความโดดเด่นของระบบ AI สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งด้านเทรนด์และเทคโนโลยี ซึ่งเรามองว่าทั้ง 2 ปัจจัยนี้ ต่างสอดคล้องกับความต้องการที่ลูกค้าทุกเจเนอเรชั่นมีร่วมกัน
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2567 นี้ เรเซอร์ ได้ใช้ช่วงเวลา Festive ที่ผู้บริโภคหลายเจเนอเรชั่นได้ใช้เวลาอยู่บ้านร่วมกัน เดินหน้าส่งเจเนอเรชั่นใหม่ของ RACER AI LAMP VOICE CONTROL ทั้ง 2 รุ่นเข้ารุกตลาดไลท์ติ้ง ภายใต้การยกระดับเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่สามารถสั่งงานได้ถึง 3 รูปแบบโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย, สั่งงานผ่านแอป Racer AI Lamp และสั่งงานผ่านรีโมทอัจฉริยะ โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ตอบสนองการใช้งานที่ง่ายดายกว่า พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์อยู่บ้านสมาร์ทโฮมที่สะดวกสบายสำหรับคนทุกเพศทุกวัย
สำหรับRACER AI LAMP VOICE CONTROL รุ่นใหม่ ประกอบด้วย รุ่น Jisoo 40 วัตต์ และรุ่น IU 60 วัตต์ โดยทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมฟังก์ชันช่วยปรับบรรยากาศ เปลี่ยนอารมณ์ให้บ้าน อย่างโหมดแสง 6 อารมณ์ คือแสงขาว, แสงนวล, แสงเหลือง, ชมดาว, ราตรีสวัสดิ์ และปาร์ตี้
รวมไปถึงแสงสี RGB 10 ธีม ปรับได้ 16 ล้านเฉดสี และระบบลำโพงเสียงคุณภาพระดับ Quality Luxury Sound ที่เป็นการต่อยอดจากรุ่นก่อน เพิ่มประสิทธิภาพการปรับแสง สี เล่นเพลง สร้างจังหวะความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ และตอบรับความต้องการของลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ได้อย่างครอบคลุม
ทั้งนี้ AI LAMP VOICE CONTROL รุ่น Jisoo และ IU ยังมาพร้อมความพิเศษจากรูปแบบเสียงตอบรับที่มีถึง 48 เสียง เลือกได้ 3 สไตล์ ซึ่ง 2 ในนั้นคือเสียงของ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ โดยเราได้เลือกเสียงและภาพลักษณ์ของคุณเก๋ไก๋ เพื่อเติมความสดใสและสดใหม่ให้แบรนด์
ผ่านการสร้างอารมณ์ร่วม (Emotional Connection) ระหว่างคุณเก๋ไก๋และกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นคนทุกเจเนอเรชั่น เพื่อจะจดจำเรเซอร์ในฐานะแบรนด์ที่สร้างความสุขและอารมณ์สนุกสนานผ่านแสงสว่างที่ครบครันทุกฟังก์ชัน
สำหรับในปี 2568 เรเซอร์จะเน้นกลยุทธ์ช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งทางออนไลน์ ผ่านมาร์เก็ตเพลสเจ้าใหญ่ อย่าง ลาซาด้า และช้อปปี้ รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Racer Online ทั้ง Facebook และ TikTok ที่มีลูกค้าใช้งานทุกเจนฯ
นอกจากนี้ เรเซอร์ยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายออฟไลน์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นเทรด, ร้านวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงร้านตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ทำให้เรเซอร์มีความพร้อมที่จะเข้าแข่งขันในตลาดโคมไฟและอุปกรณ์แสงสว่างมูลค่า 20,000 ล้านบาท ในประเทศไทยอย่างเต็มตัว
ปัจจุบัน เรเซอร์ทำตลาดใน 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ส่องสว่างและเทคโนโลยีอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียง, กลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมระบบไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย ภายในบ้าน อาคาร สำนักงาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรม
โดยตลาดไลท์ติ้งในประเทศไทย มีช่องว่างให้ขยายตัวอีกมากไม่น้อยกว่าปีละ 3-5% โดยเฉพาะการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องพลังงานสะอาด หรือ Solar Cell Mega Trend กันมากขึ้น ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสให้เรเซอร์คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมมาตอบโจทย์ความต้องการด้านนี้ต่อไปในอนาคต
บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 1,000,000 บาท แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยที่กำลังเดือดร้อนทั่วประเทศ ผ่านการสนับสนุนโครงการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ครอบคลุม ซึ่งจะช่วยเยียวยาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลาก ให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว
วาโก้ ชวนร่วมกันลดโลกร้อนส่งท้ายปี ด้วยการบริจาคชุดชั้นในเก่าเข้าโครงการ วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ ที่รวบรวมชุดชั้นในเก่าไปเผาทำลายในระบบปิด หลังระดมรับบริจาคตลอดปี ด้วยเป้าหมายระดมรับบริจาคชุดชั้นในเก่า 210,000 ตัวในปี 2567 ปีที่ 13 ของการก่อตั้งโครงการ โดยส่งชุดชั้นในเก่าไปเผาทำลายเมื่อ 9 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา เป็นการปิดท้ายโครงการในปีนี้ ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่อนข้างสูงโดยมีชุดชั้นในที่มาบริจาคและไปเผาทำลายอย่างถูกวิธี เข้ามาสูงถึง 286,400 ตัว
AIS ปักหมุดผู้นำตัวจริงฝั่งทะเลอ่าวไทย เป็นผู้ให้บริการที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และมีความครอบคลุมมากสุดในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งลึก สูง กว้าง ไกล สามารถเชื่อมต่อการทำงานได้กับทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนในพื้นที่ ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคงานบริการไปจนถึงการท่องเที่ยว ยืนยันความพร้อมในการให้บริการต้อนรับช่วงไฮซีซันของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่กำลังมีแผนเดินทางมาสัมผัสกับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวและทะเลอ่าวไทยในภาคตะวันออก