THANN จุดกำเนิดที่เกิดจาก "ความหอม" และมันสมองของ "ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์"

ตัดสินใจลาออกจากอาชีพการงานที่แสนจะก้าวหน้า ทิ้งเงินเดือนเดือนละ 2.5 แสนบาท ที่ได้รับจาก Goodman Fielder ผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของประเทศออสเตรเลีย เพราะเชื่อมั่นในแผนธุรกิจที่เขียนเองกับมือในการก่อตั้งแบรนด์ THANN (ธัญ) ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมดูแลผิวพรรณที่ใช้วัตถุดิบจากพืชและสมุนไพรไทย ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด จึงมีวันนี้ที่ THANN สยายปีกครอบคลุม 86 สาขา ใน 16 ประเทศทั่วโลก

เติบโตจากครอบครัวที่มีคุณพ่อทำงานแบงก์และคุณแม่เป็นครู คุณโอ๋-ฐิติพัฒน์ เรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่กลับทำงานโลดแล่นอยู่ในแวดวงการตลาดมาตลอด จนตัดสินใจเรียนต่อ MBA ที่ออสเตรเลีย พอเรียนจบได้เข้าทำงานกับ Goodman Fielder ผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ในออสเตรเลีย ช่วยวางแผนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

ที่ออสเตรเลีย คุณโอ๋เห็นโอกาสของผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและดูแลผิวพรรณที่ทำจากพืชธรรมชาติ จากความชื่นชอบส่วนตัว “ตอนนั้นกระแสสินค้าจากธรรมชาติเริ่มได้รับความสนใจ ฝรั่งมีกลิ่นจากลา เวนเดอร์ โรสแมรี่ ยูคาลิปตัส ส่วนสมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ได้รับความนิยมในฐานะวัตถุดิบอาหารจากกระแสครัวไทยสู่ครัวโลก แต่ยังไม่ค่อยเห็นการนำมาใช้ทำเครื่องหอมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ”

คุณโอ๋เล่าว่า พอปิ๊งไอเดียจึงลองเขียนแผนธุรกิจส่งให้เจ้านายอ่านและคอมเมนต์ ถ้าเจ้านายบอกว่าดี จะลาออกไปทำธุรกิจของตัวเองทันที แต่ถ้าเจ้านายบอกยังไม่เข้าท่า ก็จะยอมเป็นลูกน้องสั่งสมประสบการณ์ต่อไป ปรากฏพออ่านจบ เจ้านายบอกว่า “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะลงมือทำทันที” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ THANN ในปี 2545

“ผมเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย.2544 วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ THANN ในงาน BIG งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ที่จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ตอนเดือน เม.ย.2545 เท่ากับมีเวลาไม่กี่เดือน และเพราะเป็นคนทำแบรนด์ จึงรู้ว่าถ้าจะทำให้แบรนด์เกิดต้องมีสินค้ามากพอ จึงตัดสินใจเปิดตัวสินค้ารวดเดียว 24 ตัว ด้วยสินค้า 8 ชนิด 3 กลิ่น ได้แก่ ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด สครับ เทียนหอม น้ำมันนวด เป็นต้น”

จบงาน THANN ได้ออเดอร์ทันทีจากไต้หวัน มาเลเซีย ทำยอดขายเริ่มต้นที่หลักแสนบาท คุณโอ๋จึงคิกออฟต่อด้วยการเปิดหน้าร้านในประเทศควบคู่ไปด้วย เข้าไปคุยกับเซ็นทรัลชิดลม เอ็มโพเรียม โน้มน้าวใจให้เกิดการสร้างกลุ่มสินค้าใหม่ Natural Bath and Body Aroma จนได้พื้นที่วางจำหน่ายร่วมกับ Harnn และ Erb ส่วน Panpuri ขณะนั้นยังไม่เกิด

และเป็นอีกครั้งที่ประสบการณ์สอนให้คุณโอ๋รู้ว่า แค่พื้นที่วางจำหน่ายที่ใช้แสง ไฟ ผนังของห้างยังไม่เพียงพอ สินค้าแบบ THANN ต้องมีร้านของตัวเอง ไม่ต่างจากแบรนด์ต่างประเทศ อย่าง The Body Shop หรือ L’Occitane เขาถึงริเริ่มเปิดร้านแรกที่รอยัล การ์เด้นท์ พลาซ่า พัทยา เพราะเห็นว่าเป็นเมืองสีสัน พร้อมกันกับการเปิดร้านทั่วโลเกชันกรุงเทพมหานคร

ราว 2 ปีให้หลัง THANN ได้รับโอกาสใหญ่อีกครั้ง เมื่อมีนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องการเปิดร้าน THANN ในญี่ปุ่น คุณโอ๋เล่าว่า การเปิดตลาดสู่ญี่ปุ่น เปรียบเหมือนการเริ่มต้นใหม่ คุณภาพต้องตรงตามมาตรฐาน แต่พอเข้าญี่ปุ่นได้ THANN ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดและไปได้ทุกแห่งทั่วโลก รวมทั้งการถูกเลือกใช้ในโรงแรมเครือแมริออททั่วโลกและสายการบิน เช่น ANA

“โมเดลในตลาดต่างประเทศของ THANN วางรูปแบบไว้ใกล้เคียงระบบแฟรนไชส์ การลงทุนเป็นของพันธมิตร แต่ดีไซน์สินค้าทุกอย่างมาจากเรา THANN จึงแทบไม่มีความเสี่ยง ธุรกิจมีกำไรตั้งแต่ปีแรกและขึ้นสู่จุดพีกสุดที่ยอดขายปีละ 700 ล้านบาทในปี 2562 จนมาเจอโควิด ทำให้ THANN ต้องขาดทุนเป็นครั้งแรก 2 ปีติด เพราะทุกอย่างหยุดนิ่งหมด”

ปัจจุบัน THANN ทำธุรกิจครอบคลุม 4 สายงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและดูแลผิวพรรณและร้านค้า, สปา, ชุดของใช้ในห้องน้ำโรงแรมและสายการบิน และโรงแรม THANN Wellness Destination ที่บางไทร พระนครศรีอยุธยา

เมื่อถามถึงเป้าหมายต่อไปของ THANN ในวัย 22 ปีเต็ม คุณโอ๋บอกว่า อยากให้ THANN เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ เจน Z ลงไปมากขึ้น “เราเป็นที่รักของคนเจน X และเจน Y แล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รักของเด็ก อยากให้ THANN เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น เป้าหมายที่เหลือคือการใช้นวัตกรรมเข้ามาทำให้ THANN ไม่ถูกแทนที่หรือเลียนแบบได้โดยง่าย การทำแบรนด์ให้มีเหตุผลในการซื้อมากขึ้น รวมทั้งทำไซส์ให้เหมาะกับการเป็นของขวัญ ของฝาก เพื่อตอบโจทย์ตลาดท่องเที่ยว”

แม้จะมีคนขอซื้อกิจการมากมาย คุณโอ๋บอกว่า จะขายก็ต่อเมื่อคิดว่าทำได้ไม่ดีพอ ถึงเวลานั้นจึงจะพิจารณายกให้คนอื่นไปทำต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น เช่นเดียวกับการนำ THANN เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่โดนจีบมาตลอด

“ไม่มีแผนเข้าตลาดหุ้นแน่ เพราะชีวิตผมพอแล้ว ทุกวันนี้ได้ทำงานที่รัก ดูแลลูกน้อง พันธมิตร สนับสนุนเขาให้ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ผมไม่อยากได้อะไรเพิ่มแล้ว พอแล้ว”.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม