5 ข้อต้องรู้! อยากขายของออนไลน์ ควรเริ่มต้นอย่างไร?

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

5 ข้อต้องรู้! อยากขายของออนไลน์ ควรเริ่มต้นอย่างไร?

Date Time: 8 ธ.ค. 2567 09:51 น.

Video

“Bulgari” ไทยโอกาสใหม่ Luxury | Brand Story Exclusive EP.5

Summary

  • 5 ข้อควรรู้! อยากขายของออนไลน์ ควรเริ่มต้นอย่างไร? ไม่ได้มีแค่ "สินค้า" แต่ต้องรู้ทิศทางตลาดด้วย ชื่อร้านก็สำคัญ

Latest


ปัจจุบัน ธุรกิจขายของออนไลน์ ไม่ได้เป็นแค่อาชีพเสริม แต่ได้กลายเป็น “อาชีพหลัก” ของใครหลายๆ คน ตลาดเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ มีช่องทางการขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Facebook, Line Shopping, Instagram เรื่อยไปจนถึง TikTok Shop ที่กำลังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับนักขายหน้าใหม่ หรือสร้างเศรษฐีเงินล้านมาแล้วนักต่อนัก

ธุรกิจขายของออนไลน์ ยังถูกระบุว่าเป็นธุรกิจที่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย เพราะใครที่อยากขายก็สามารถทำได้ทันที ต่อให้ไม่มีหน้าร้าน เพียงแค่เรียนรู้ มีเทคนิคการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อลงสินค้าซื้อขายให้ถูกต้องน่าสนใจเท่านั้น ก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ของตัวเองได้แล้ว แต่ทว่า อาจไม่ง่ายเสมอไป ถ้ายังไม่รู้เรื่องเหล่านี้

5 ข้อควรรู้ ก่อนเริ่ม “ขายของออนไลน์”

ข้อมูลแนะนำจากหอการค้าไทย ระบุว่า เบื้องต้นมีข้อควรรู้สำหรับผู้อยากขายของออนไลน์ ดังนี้

1. รู้จักสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย
- ต้องการขายสินค้าแบบไหน
- ต้องสั่งซื้อหรือผลิตอย่างไร
- สามารถเก็บสินค้าไว้ที่บ้านหรือโกดังได้เท่าไหร่
- ขายราคาเท่าไหร่จึงจะได้กำไร ถ้าหากแบ่งกับทางแพลตฟอร์ม
- รู้เท่าทันกระแสนิยมของสินค้า

2. แหล่งขายสินค้าต้องสัมพันธ์กับต้นทุน
- รู้จักแหล่งขาย/แหล่งผลิตสินค้าดีๆ
- ค่าน้ำมันในการเดินทางหรือค่าขนส่ง
- ต้นทุนต่างๆ จะได้คืนมาเมื่อไหร่
- ทุนสำรองต้องมี

3. ชื่อร้านคือสิ่งแรกที่ลูกค้าจะจดจำ
- เป็นชื่อที่จดจำได้ง่าย
- มีความเกี่ยวโยงกับสินค้า
- สามารถค้นหาได้ง่าย

4. รู้ทิศทาง/การตลาดออนไลน์ของตัวเอง
- แพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะขาย มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ขายรายใหม่หรือไม่
- ถ้ามี จะเอาเงินส่วนนี้ไปทำอะไรต่อ

5. รู้จักแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่างๆ
- ข้อดี/ข้อเสีย ของแต่ละแพลตฟอร์ม
- จะเปิดที่ช่องทาง เปิดมากคนเห็นมาก แต่ก็บริหารจัดการยากขึ้น

เปิดร้านขายของออนไลน์ที่ไหนได้บ้าง

1. Shopee แพลตฟอร์ม E-Commerce ที่ได้รับความนิยมมาเป็นอันดับต้น ๆ ในไทย ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะเข้ามาหาของจิปาถะทั่วไป และมีราคาถูกเป็นหลัก ถ้าอยากขายของออนไลน์ให้ได้มาก ๆ ช่องทางนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี


2. Lazada เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่อยู่มานานกว่า Shopee จึงมีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างเหนียวแน่น การกำหนดราคาต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มนี้ ก็ไม่ถือว่าเชือดเฉือนกดราคากันเกินไปนัก


3. TikTok ปัจจุบันสามารถขายของออนไลน์บน TikTok ได้แล้ว อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้ทำคอนเทนต์ และไลฟ์สดเรียกลูกค้าได้อย่างง่ายดายกว่าแพลตฟอร์มอื่น ค่อนข้างเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ขายที่ต้องการเจาะตลาดหรือมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ในช่วงวัย 13–25 ปี


4. Facebook Marketplace ด้วยระบบ Facebook Marketplace ทำให้ทุกคนสามารถโพสต์ขายสินค้าต่าง ๆ ได้ในหน้าเฟสบุ๊กส่วนตัว รวมไปถึงหน้าเพจต่าง ๆ ซึ่งผู้ขายสามารถพูดคุยกับผู้ซื้อได้ทันทีแบบเรียลไทม์


5. Line Shopping นอกจาก Line จะเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความอันดับหนึ่งของชาวไทยแล้ว ระบบ Line Shopping ยังทำให้ร้านค้าต่าง ๆ สามารถเปิดร้านเพื่อขายสินค้ากันได้อย่างง่ายดาย พร้อมเครื่องมือและระบบต่าง ๆ ที่จะทำให้ปิดการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ