ปัญหา “รถติด” นับเป็นปัญหากวนใจของคนใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนในเมือง ปัจจุบันกรมทางหลวงได้มีการนำเทคโนโลยีมากมายเข้ามาช่วยส่งเสริมให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น รวมถึงการใช้รถใช้ถนน เพราะกรมทางหลวงเพิ่มช่องเก็บค่าผ่านทางแบบ AI ผ่านก่อนจ่ายทีหลัง ภายใต้ชื่อระบบ M-Flow เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่าน
เจาะความสำเร็จ M-Flow เพิ่มความแข็งแกร่งให้การคมนาคมของไทย
ดร.ธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง กล่าวว่า หากพูดถึง M-Flow นั้น M มีความหมายสองนัยสำคัญคือ Motorway Flow เป็นการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อแก้ไขระบบการจราจรบริเวณหน้าด่านทั้งทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และการทางพิเศษให้นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณหน้าด่าน
ส่วน M ที่สองมาจากคำว่า Multi-Lane Free Flow ระบบเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติที่ผู้ใช้ทางสามารถผ่านทางได้หลายช่องทาง โดยไม่จำเป็นต้องชะลอจ่ายเงินบริเวณหน้าด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้กับกรมทางหลวงและการทางพิเศษให้นำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่าน
ซึ่ง M-Flow คือ ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่นำกล้องอัจฉริยะมาตรวจบันทึกป้ายทะเบียนรถแทนการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้ทางก็จะได้รับความสะดวก โดยที่สามารถวิ่งผ่านช่องเก็บเงินโดยที่ไม่ต้องชะลอบริเวณหน้าด่าน ชำระได้ทั้ง QR Code, Mobile Banking, บัตรเครดิต เดบิต หรือ M-Pass, Easy Pass และร้านสะดวกซื้อ เคาน์เตอร์เซอร์วิสก็ได้เช่นกัน โดยที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกวิธีชำระได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นรายวัน หรือราย 15 วัน ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ทาง
ทั้งนี้หลังจากที่มีการนำระบบ M-Flow มาใช้งาน พบว่าสามารถระบายรถได้ถึง 2,000 คันต่อช่อง ต่อชั่วโมง หรือพูดง่ายๆ คือ สามารถระบายรถได้เร็วกว่าระบบเงินสดถึง 5 เท่า
ความท้าทายในการนำระบบ M-Flow มาใช้กับการคมนาคมของไทย
แต่กระนั้นเมื่อเป็นเรื่องใหม่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรนัก ดร.ธนศักดิ์ มองว่าจากการที่ระบบ M-Flow เป็นระบบแรกในเมืองไทย ที่ให้ผู้ใช้ทางวิ่งไปก่อนและชำระเงินทีหลัง เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินแบบเดิมไปโดยสิ้นเชิง
ซึ่งจากการเปิดใช้บริการช่วงแรกมีผู้ใช้งานไม่รับรู้พอสมควร เราจึงพยายามสร้างการรับรู้ในทุกๆ สื่อ ทั้งออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์ Facebook YouTube แต่ก็ยังมีประเด็นค่อนข้างเยอะ ถึงการสมัครใช้งานที่ในช่วงแรกจะเป็นการสมัครแบบเต็มรูปแบบ ที่จะต้องมีการยืนยันทั้งตัวตน รถ โดยที่จะต้องมีการถ่ายภาพยานพาหนะด้วย รวมทั้งการเลือกวิธีการชำระเงิน ที่ถือเป็น 3 สเต็ปหลักๆ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่ใช้เอกสารค่อนข้างเยอะ
สมัครได้สะดวกรวดเร็ว เสร็จภายใน 3 นาที
ดังนั้นหลังจากที่เราได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้ใช้งานในช่วงแรก เราก็พบว่าเรื่องของขั้นตอนในการสมัคร เอกสารที่ต้องใช้ จึงได้มีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารบน LINE Platform โดยให้ทางผู้ใช้ทาง M-Flow สามารถสมัครผ่านทางระบบ LINE OA เพียงแค่มีบัตรประชาชน ยืนยันตัวตนผ่านเบอร์โทรศัพท์ และใส่ป้ายทะเบียน จากนั้นเลือกวิธีชำระเงิน ก็จะทำให้สามารถผูกสมาชิก M-Flow ผ่านทาง LINE ได้ใน 3 นาที
กลยุทธ์ในการนำผู้บริโภค เข้ามาสู่ LINE OA
“เนื่องจากลูกค้าของเราเป็นกลุ่มใหญ่มาก ดังนั้นช่องทางของ LINE OA ที่มีกลุ่มลูกค้าถึง 54 ล้านคน จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสามารถสื่อสารประชาสัมพันธ์กับทางผู้ใช้ทางของ M-Flow ได้อย่างตรงจุดเป้าหมาย”
ดร.ธนศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบ M-Flow ทางกรมทางหลวงจึงได้ชูสโลแกน “มาร่วมเป็นครอบครัว M-Flow” หรือ ที่เราเรียกว่า M-Flow Family ที่เป็นแคมเปญ ซึ่งก็ได้ร่วมกับทางเพจ Boriboon Family จัดทำตัวคาแรกเตอร์ ของตัวสติ๊กเกอร์เพื่อที่จะสื่อสารประชาสัมพันธ์แก่ผู้ใช้ระบบ M-Flow ผ่าน LINE OA โดยก็ได้มีการจัดทำตัวสปอนเซอร์สติ๊กเกอร์ ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบ M-Flow จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Smart Channel บน LINE ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และการเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง และจะมีการแจ้งค่าผ่านทาง LINE Official Account ปัจจุบันมีสมาชิกที่ผูกกับระบบ LINE ประมาณ 1 แสนราย และมีเพื่อนประมาณ 1.5 ล้านราย ซึ่งผู้ใช้งานก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่านช่องทาง LINE ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่การสมัครก็จะง่ายๆ เพียงแค่ 3 นาที