หากพูดถึง “ภูเก็ต” แน่นอนว่าถือเป็นจังหวัดสร้างรายได้อันดับต้น ๆ ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยว โดยมีการคาดการณ์รายได้ภาคการท่องเที่ยวปี 67 จะแตะที่ 500,000 ล้านบาท ‘New high’ โตจากปี 66 ที่ 28% (ปี 66 อยู่ที่ 388,017 ล้านบาท)
ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และภูเก็ตนับเป็นจังหวัดที่มี High season ตลอดทั้งปี มีค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว 34,336 บาทต่อคนมากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากภูเก็ตถือว่าเป็นตลาดท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ที่นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายต่อหัวสูง
มีจุดขายที่สำคัญคือ ทะเลอันดามันที่สวยติดอันดับโลกของประเทศ และมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GPP Per capita) อันดับ 1 ของภาคใต้ อันดับ 12 ของประเทศ คาดว่า GDP ของจังหวัดภูเก็ตในปี 2024 จะเติบโตในระดับเกือบ 20% โดยถือว่าขยายตัวได้ดีกว่าภาพรวมของทั้งประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยว Top 5 คือ รัสเซีย จีน ตะวันออกกลาง ยุโรป และอินเดีย
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 5 จิ๊กซอว์สำคัญทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองชายทะเลหรูระดับโลก คือ
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ตลาดสินค้า Luxury ไทยเติบโตกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดการณ์การเติบโตเฉลี่ย 6.15% ต่อปี จนถึงปี 2028 ซึ่งสูงกว่าตลาดในสิงคโปร์ โดยที่สินค้า Luxury ในไทยเน้นกลุ่มแฟชั่นเป็นหลัก เติบโตจากความต้องการในประเทศ และอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย แม้ตลาดสินค้าหรูทั่วโลกชะลอตัว แต่ไทยกลับเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
วัดได้จากเม็ดเงินโฆษณาแบรนด์หรูต่าง ๆ ที่ Target ในไทย โตถึง 214% ในครึ่งปีแรกของปี 67 สูงที่สุดในเอเชีย ซึ่งแบรนด์หรูระดับโลกหลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้ KOLs ไทยในฐานะ Brand Ambassador สะท้อนอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะกับกลุ่ม Young Gen
ตัวอย่างเช่น "อาโป" ที่คว้าอันดับสองในคนดังที่สร้างมูลค่าทางสื่อสูงสุดให้กับ Dior ในงาน Paris Fashion Week รองจากไคลี่ เจนเนอร์
จึงเป็นเหตุผลให้ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ทุ่มเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่ฝั่งฟลอเรสต้า จากเดิม GFA 180,000 ตร.ม. เป็น 200,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้น 2 หมื่น ตร.ม. แบ่งเป็น Ultra Luxury Brands and Bridge Line รวมทั้งสิ้น 25 แบรนด์ จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 16 แบรนด์ อาทิ Dior, Burberry, Bvlgari, Omega, Saint Laurent ถือเป็น Luxury mall ที่รวมแบรนด์หรูมากที่สุด หนึ่งเดียวนอกกรุงเทพฯ ช่วยส่งเสริมศักยภาพการเติบโต และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อสูง และคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีมากกว่า 25-30 แบรนด์
ด้าน วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ทำรายได้ให้การท่องเที่ยวเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพฯ หลัก ๆ รายได้มาจากการท่องเที่ยวถึง 80% ซึ่งเซ็นทรัล ภูเก็ต ปัจจุบันมีลักชูรีแบรนด์ทั้งหมด 15 แบรนด์ และภายในปี 67 จะเพิ่มเป็น 16 แบรนด์
ได้แก่ “BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, BVLGARI, CELINE, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, PRADA, SAINT LAURENT, TIFFANY & CO., VERSACE, ZEGNA”
โดยในปีนี้มีอัปเดตความเคลื่อนไหวของแบรนด์หรูต่าง ๆ ได้แก่ LOUIS VUITTON บูติกส่วนต่อขยายใหญ่ที่สุดในภาคใต้, PRADA บูติกใหม่ ขนาด 597 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, TIFFANY & CO. แฟล็กชิพสโตร์, BVLGARI ป๊อป-อัพ เผยโฉมครั้งแรกนอกกรุงเทพฯ, CELINE เตรียมเปิดเดือนธันวาคมนี้ และแบรนด์ที่ Relocate อย่าง BOTTEGA VENETA, BALENCIAGA, YSL เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเพิ่มแบรนด์สตรีทระดับโลก อย่าง Lululemon สาขาแรกนอกกรุงเทพฯ และ ZARA Flagship Store คอนเซปต์ใหม่ล่าสุด ใหญ่ที่สุดใน South East Asia บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร มียอดขายเปิดร้านวันแรก (1 Nov) อันดับ 1 ในเอเชีย และปัจจุบันมียอดขายติดอันดับ 3 ของไทย รองจากกรุงเทพฯ สะท้อนศักยภาพเมืองเป็นศูนย์การค้าที่แบรนด์โลกเลือกปักหมุด
ขณะที่ทราฟฟิกปัจจุบัน เฉลี่ย 80,000 คน/วัน คาดหลังขยายโซนแล้วเสร็จ จะเพิ่ม 25% เป็น 100,000 คน/วัน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 70% และคนไทย 30% นักท่องเที่ยว 5 อันดับแรกที่เข้าใช้บริการศูนย์การค้า: Russia, China, USA, Singapore, Hong Kong โดยข้อมูลจาก The 1 พบว่า Spending per visit ของ The 1 Member สูงกว่าศูนย์อื่น 5 เท่า และ Spending per visit ของ The 1 Exclusive สูงกว่าศูนย์อื่น 6 เท่า โดยสิ่งที่ดึงดูดให้คนมาช้อปแบรนด์เนมที่เซ็นทรัล ภูเก็ต คือ มีสินค้า Rare items ที่หาไม่ได้ที่อื่น อีกทั้งพื้นที่เซ็นทรัล ภูเก็ต และฟลอเรสต้า มีขนาดใหญ่รองจากเซ็นทรัลเวิลด์”
วิไลพร กล่าวต่อไปว่า ส่วนใหญ่คนทำงาน อย่างวัยหนุ่มสาวและ First Jobber จะนิยมมาช้อปมากถึง 35-40% จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของการจับจ่ายใช้สอยสินค้าลักชัวรี “ภูเก็ต” โตกว่ากรุงเทพฯ 10-15% ในระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา
และเนื่องในโอกาสที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ฉลอง 6 ปี ลักชูรีเดสติเนชันระดับโลก และได้มีการทำแฟชั่นฟิล์มพิเศษที่ถ่ายทำในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วภูเก็ต โปรโมทการท่องเที่ยวของจังหวัด ด้วยคอนเซปต์ “LIVE. LUXE. LOVE.” เพื่อทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ต ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์การค้าแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในการยกระดับภูเก็ตให้เป็น “Top Destination for Global Jetsetters” และเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์และความหรูหราที่ครบวงจรอย่างแท้จริงในระดับโลก
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney