เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “สยามกลการ” น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะถือได้ว่าเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ ที่อายุอานามมากถึง 72 ปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคนก็คงจะเป็นผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย เพราะดูจากการเติบโตและอยู่เคียงคู่กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานก็นับว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของวงการเลยก็ว่าได้
ซึ่งสยามกลการนั้นอยู่ภายใต้การบริหารของตระกูล “พรประภา” ผู้คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจ ครองอาณาจักรธุรกิจสารพัดประเภท
กลุ่มสยามกลการเป็นกลุ่มบริษัทที่อยู่ภายใต้การลงทุนของ บริษัท สยามกลการ จำกัด ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรชั้นนำของบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิสสัน ฮิตาชิ ไดกิ้น สยามดนตรียามาฮ่า ฯลฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
แต่ ณ วันนี้ไม่ได้มีแค่พอร์ตธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์เท่านั้น เพราะปัจจุบันกลุ่มสยามกลการดำเนินธุรกิจทั้งหมด 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ครอบคลุมกว่า 69 บริษัท ตั้งแต่อุตสาหกรรมรถยนต์ อะไหล่ อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ไปจนถึงดนตรี
ล่าสุดทายาทผู้รับไม้ต่ออย่าง “ประกาสิทธิ์ พรประภา” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด ที่เข้ารับตำแหน่งไปหมาดๆ เมื่อปีที่ผ่านมา ได้ฉายวิสัยทัศน์กลุ่มสยามกลการ “SMG NEXT: Building Tomorrow, Today” ว่า ได้มีการวางโรดแมปที่จะมุ่งขยายพอร์ตสู่ 5 ธุรกิจใหม่ ภายในปี 2573 ได้แก่ Mobility Tech, Hospitality & Education, Property, Clean Technology, Digital Platform
โดยทั้งหมดนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนรวม 9,500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และตั้งเป้าในการเติบโตของรายได้กว่า 20% สะท้อนให้เห็นว่าการจะทำธุรกิจขาเดียวในปัจจุบันคงไม่เวิร์กอีกต่อไป เพราะขนาดกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อย่าง “กลุ่มสยามกลการ” ยังต้องเดินหน้าบุกธุรกิจใหม่ เพื่อขยายพอร์ตการเติบโตให้กับธุรกิจเช่นกัน
ทั้งนี้หากดูรายได้เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยหลักๆ มาจากชิ้นส่วนยานยนต์ 80% ส่วนอีก 20% เป็นธุรกิจก่อสร้าง อุตสาหกรรมและเครื่องจักรกล อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยวและบริการ โรงเรียนดนตรี และอื่นๆ
นอกจาก 5 แผนธุรกิจใหม่แล้วนั้น ประกาสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงเรียนนานาชาติที่พัทยา ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปี รวมทั้งการรีโนเวทอาคารสยามกลการเดิม บน ถ.พระราม 1 โดยการเปลี่ยนเป็นโรงแรมสูง 19 ชั้น และใช้เชนบริหารจากเครือ Pan Pacific Hotels Group คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2570 นอกจากนี้มีแผนที่จะลงทุนทั้งคลังสินค้าและ Data Center ในนิคมอุตสาหกรรมที่ชลบุรีและฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร
และล่าสุดก็ได้ประกาศขยายธุรกิจการลงทุน ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดอาคารสำนักงานด้วยการเปิดตัว “อาคารสยามปทุมวัน เฮ้าส์” อาคารสำนักงานอัจฉริยะระดับพรีเมียมเกรดเอแห่งแรกของบริษัทฯ ในกลางย่านปทุมวันที่สูงถึง 33 ชั้น 136 เมตร มูลค่ากว่า 3.5 พันล้านบาท ที่เปิดบริการเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันอาคารสยามปทุมวัน เฮ้าส์ ได้เป็นบ้านให้กับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง โดยมีผู้เช่าประมาณ 54% อาทิ นิสสัน, ไดกิ้น, คริสเตียน ลูบูแตง, แอกซ่า ประกันภัย, บิวเทรี่ยม, อันเดอร์ อาร์เมอร์ และอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าในปี 2568 จะมีผู้เช่าเพิ่มสูงถึง 75% อย่างแน่นอน เป็นแผนการดำเนินงานของกลุ่มสยามกลการ ภายใต้ผู้บริหารเจเนอเรชั่น 2 และทีมงาน ที่จะพิสูจน์ว่า ถึงใหญ่ แต่ไม่เคยหยุดยิ่งที่สร้างธุรกิจเดิมให้แข็งแรงและต่อเติมธุรกิจใหม่ให้ขยายตัว
อ่านข่าวกับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney