“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปั้น ONYX Hospitality Group สู่การเป็น “เบอร์หนึ่ง” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยครึ่งแรกของปี 2024 ฟื้นตัวดี โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 17.5 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 8.25 แสนล้านบาท และยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้น ดันรายได้ครึ่งปีแรกโต 14%

ด้านผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมอย่าง ONYX Hospitality Group เองก็มีผลประกอบการที่เติบโตจากการฟื้นตัวในครั้งนี้ด้วย ซึ่งรายได้โดยรวมในครึ่งปีแรกของปี 2024 เทียบกับปี 2023 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 14% และเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดในปี 2019 เติบโตเพิ่มถึง 13% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม LUXURY (ลักชัวรี่), Upper Upscale และ Upper-Middle scale ตามลำดับ โดยปี2024 ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 9,463 ล้านบาท

กลยุทธ์การขับเคลื่อนเน้นโอกาสการเติบโตผ่านการสร้างจุดยืนของแบรนด์ให้ชัดเจนและเข้มแข็งยิ่งขึ้น กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากกว่า รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจด้วยการผสานเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงเสน่ห์ เข้ากับความร่วมสมัยเพื่อให้เป็นมากกว่าประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมทั่วไป และการยกระดับบริการภายในโรงแรมให้ครอบคลุมความต้องการของผู้เข้าพักที่มีแตกต่างกันในแต่ละเซกเมนต์ ให้ตอบสนองความต้องการได้มากยิ่งขึ้น อาทิ สปา อาหาร และเครื่องดื่ม ฯลฯ

กว่าครึ่งศตวรรษในอุตสาหกรรมโรงแรมของ ONYX Hospitality Group

กว่า 50 ปีของ ONYX Hospitality Group (ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป) บริษัทภายใต้กลุ่มบริษัท ITALTHAI (อิตัลไทย) จากวันแรกในธุรกิจโรงแรมกับแบรนด์โรงแรม Amari (อมารี) ที่พัทยา ชลบุรี ปัจจุบัน ONYX Hospitality Group กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงในด้านการบริหารจัดการโรงแรม, รีสอร์ต, เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และ ที่พักอาศัยระดับสูง อาทิ Amari, OZO, Shama และ Oriental Residence รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ ในอุตสาหกรรมบริการอย่าง สปา และร้านอาหาร เช่น แบรนด์สปา ‘ไหม สปา’ (maai spa) และ ‘บรีซ สปา’ (Breeze spa) หรือแบรนด์ร้านอาหาร ‘เปรโก้’ (Prego) ‘ชมสินธุ์’ (Chom Sindh) และ ‘นิลา’ (Nila) เป็นต้น

ซึ่งทุกธุรกิจข้างต้นได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ทั่วทั้งภูมิภาคทำให้ ONYX Hospitality Group ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรมนี้ ภายใต้การนำทัพของหัวเรือใหญ่ขององค์กร ‘ท็อป’ ยุทธชัย จรณะจิตต์ กับวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคกับการเป็น “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia”

ยุทธชัย จรณะจิตต์ กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เพียงแต่เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโต แต่ยังมีทรัพยากรและภูมิประเทศที่น่าสนใจ มีมิติศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่หลากหลายและมีเสน่ห์ แต่ละประเทศในภูมิภาคนี้มีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งความน่าสนใจคือออนิกซ์ฯ มีความเข้าใจในตัวตนเหล่านั้นเนื่องด้วยเราแบ่งปันวัฒนธรรมร่วมเดียวกัน นั่นทำให้องค์กรมองเห็นโอกาสที่ยังไม่มีแบรนด์ไหนจะสามารถหยิบจุดเด่นและความได้เปรียบนี้มาดึงกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคได้ ออนิกซ์ฯ เชื่อว่าองค์กรสามารถสร้างความเชื่อมโยง และความเชื่อใจแก่นักเดินทางภายในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี

ในมิติของพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจเอง ออนิกซ์ฯ ใช้ความเข้าใจและความเข้าถึงเป็นหัวใจหลักในการบริหาร ด้วยองค์กรเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมโรงแรมและบริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนานจากประสบการณ์ที่เป็นเจ้าของโรงแรมเอง และจากการเข้ารับบริหาร จะสามารถสร้างบริการที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจด้วยความยืดหยุ่น แต่ยังอยู่ภายใต้แบรนด์ที่มีมาตรฐานระดับสากลและครอบคลุมในทุกกลุ่มตลาดของนักเดินทาง

“เราไม่ได้มองคู่ค้าของเราเป็นเพียงตัวเลขในพอร์ตการลงทุนทางธุรกิจ แต่เราให้บริการพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าทุกท่านด้วยความเข้าอกเข้าใจในวิถีการทำงานที่ต่างกันไปอย่างแท้จริง เพราะ ‘A Tailored Approach to Hospitality’ คือจุดแข็งที่องค์กรยึดถือและใช้เป็นแนวคิดในการทำงานตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ถึงการให้บริการในระดับปฏิบัติการ จึงนับเป็นเครื่องมือที่จะพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางได้”

ทำความรู้จักแบรนด์ภายใต้ ONYX Hospitality Group

1. Amari (อมารี) แบรนด์โรงแรมระดับ Upper Upscale แบรนด์แรกขององค์กร ให้บริการในรูปแบบ Full Scale Service ผ่านรูปแบบบริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น City MICE, Urban Resort, Resort ตลอดจน Airport Hotel หรือ Sport Hotel เป็นต้น

2. OZO (โอโซ่) แบรนด์โรงแรมระดับ Upper-Middle scale ที่เน้นความมีชีวิตชีวา ให้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและสนุกสนานให้กับผู้เข้าพัก เปิดให้บริการในหัวเมืองท่องเที่ยวชั้นนำหลายแห่งทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ ประเทศไทย ที่ พัทยา, สมุย, ภูเก็ต และในประเทศมาเลเซีย ที่ ปีนัง และกำลังจะเปิดตัว โอโซ่ ที่ เมดินี ในเร็วๆ นี้

3. Shama (ชามา) แบรนด์เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่ไม่เพียงแต่ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในฮ่องกง แต่ยังเป็นที่พักอาศัยสำหรับการเข้าพักระยะสั้นและระยะยาว ที่มาพร้อมโปรแกรม ชามา โซเชียล คลับ (Shama Social Club) ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์โปรแกรมที่ทำให้ผู้เข้าพักแบบระยะยาวสามารถคุ้นเคยกับชุมชนแวดล้อมโดยรอบและสังคมใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

4. Oriental Residence (โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์) แบรนด์โรงแรมหรูที่เป็นเสมือนบ้านแสนสวยหลังที่สอง ปัจจุบันเปิดให้บริการใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ถนนสายประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานามิตรประเทศ นำเสนอห้องพักแบบเซอร์วิส เรสซิเดนซ์ และคอนโดมิเนียมหรู ที่สวยงามคลาสสิกเหนือกาลเวลา และยังเป็นหนึ่งใน Small Luxury Hotel Collection

ปัจจุบันแบรนด์ Amari (อมารี) และ OZO (โอโซ่) นับเป็นแบรนด์เรือธงในการขับเคลื่อนรายได้สำคัญให้กับออนิกซ์ฯ ในขณะที่ Shama (ชามา) มีทิศทางในการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยปัจจุบัน ONYX Hospitality Group มีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหาร ครอบคลุมทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ ลาว และ ศรีลังกา

ทั้งนี้ในอนาคตอันใกล้ ONYX Hospitality Group ตั้งเป้าขยายธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมให้ได้ 50 แห่งในปี 2025 และ 70 แห่งภายในปี 2028 สู่การเป็น The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia

“ขณะเดียวกันในมิติของการขยายพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) ยังคงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังเนื่องจากเราเพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤติโรคระบาด ถึงแม้ว่าองค์กรจะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นก็ตาม แผนการในการขยายพอร์ตฯ ณ ตอนนี้ยังเน้นผ่าน 2 รูปแบบหลัก คือ การเข้ารับบริหาร และพัฒนาโครงการที่เป็นเจ้าของเอง โดยปัจจุบันแบ่งสัดส่วนที่ 70:30 แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้เริ่มศึกษาและดำเนินการในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับ Developer เจ้าใหญ่รายหนึ่งจากต่างประเทศ สำหรับการร่วมลงทุนร่วมกันในการพัฒนาโครงการที่พักระดับ Luxury ที่ภูเก็ต ทั้งนี้ในทุกรูปแบบของการขยายพอร์ตมีความจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงในการลงทุนอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะรับบริหาร สร้างโรงแรมใหม่เอง หรือลงทุนร่วม” ยุทธชัย กล่าวเสริม

อย่างไรก็ตาม ONYX Hospitality Group มีความเชื่ออย่างหนักแน่นว่า ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 50 ปีในอุตสาหกรรมโรงแรมและบริการ พร้อมด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับคู่ค้า นักเดินทางผู้เข้าพัก ตลอดจนพันธมิตรธุรกิจ โดยคำมั่นสัญญาและความตั้งใจที่จะเป็น The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia จะไม่เป็นเพียงแต่วิสัยทัศน์เท่านั้น แต่จะกลายเป็นจริงได้ ด้วยกลยุทธ์และความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ขององค์กร