ถ้าหากพูดถึงเครื่องดื่มสำหรับคุณแม่เตรียมตั้งครรภ์ และบำรุงน้ำนม “Mommy Booster” (มัมมี่บูสเตอร์) คงเป็นชื่อแรกๆ ที่ทุกคนจะเอ่ยถึง เพราะด้วยคุณภาพของเครื่องดื่มน้ำหัวปลีออแกนิก ราคาที่เข้าถึงได้ และการสื่อสารของแบรนด์ที่ทำมานานกว่า 8 ปี “Mommy Booster” จึงกลายเป็น Top of mind ที่คนเป็น “แม่” ต้องนึกถึง
และล่าสุดก็ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” ว่าที่คุณแม่ลูกสอง ผู้ใช้งานจริงมาตั้งแต่ท้องแรก พร้อมลุยตลาดเต็มสูบด้วยกลยุทธ์ “Momketing”
วริษา เนื้อนุ้ย บาร์โรด์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Mommy Booster (มัมมี่บูสเตอร์) เล่าให้ฟังว่า เธอเรียนจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม และ ระดับ Master degree International business and management for designers Ecole Internationale de Design, Campus de la Grande Tourrache FRANCE.
แต่มาทำแบรนด์เพราะเกิดจากแพชชั่นส่วนตัวที่ชื่นจากการทำอาหาร บวกกับน้องสะใภ้ตั้งครรภ์ เธอจึงต้มน้ำหัวปลีทานกันภายในครัวเรือน เมื่อได้ผลดี ก็ได้ขยายสู่การทำแบรนด์เต็มตัว ด้วยการเป็นเครื่องดื่มสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และบำรุงน้ำนม ทำให้ในวันนี้ Mommy Booster (มัมมี่บูสเตอร์) ประสบความสำเร็จกับการครองตลาดด้วยยอดขายสูงสุด 4 ปีซ้อน
ที่มีจุดแข็งคือไลน์อัปผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดครอบคลุมทุกช่วงเวลาสำหรับคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่คุณแม่ที่เตรียมตั้งครรภ์ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือช่วงหลังคลอด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าประมาณ 14 SKUs จำหน่ายทั้งในประเทศไทย และส่งออกต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และคาดว่าในปี 68 จะทำการบุกตลาดเอเชีย
และด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะครองส่วนแบ่งการตลาด 60% ภายในปี 2569 จากเดิมที่ครองครองส่วนแบ่ง 57% ในปี 2565 ทำให้ล่าสุดจึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “Mommy Booster X Sririta” น้ำหัวปลีอัญชันผสมทับทิมช่วยบำรุงครรภ์ บำรุงน้ำนม และยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส คนทั่วไปสามารถดื่มได้ เป็นสูตรพิเศษที่ร่วมคิดค้นกับคุณแม่เซเลบสาวสวยชื่อดังอย่าง “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” คุณแม่ผู้ใช้จริงมาตั้งแต่ท้องแรก
ส่วนคำถามที่ว่าตัวของแบรนด์และสินค้าขายได้ด้วยตัวเอง ทำไมต้องมีพรีเซนเตอร์ วริษา มองว่า “พรีเซนเตอร์เหมือนเป็นกระบอกเสียง แม้แบรนด์จะเป็นที่รู้จัก แต่ด้วยยุคนี้การมีผู้อิทธิพลมาช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการดึงตัวแม่ในวงการมาอยู่กับแบรนด์”
“เราต้องการให้ “ศรีริต้า” เป็นโรลโมเดลและตัวแทนของผู้หญิงที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะการเป็นคุณแม่ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในบทบาทการทำงานและเป็นคุณแม่ไปพร้อมกัน ทางแบรนด์จึงแต่งตั้ง “ศรีริต้า” เป็นแบรนด์พรีเซนเตอร์คนแรก เพื่อเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการสื่อสารและส่งต่อพลังบวกให้ผู้หญิงทุกคนที่อยากมีลูก และเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่ทุกคนมีความสุขกับการตั้งครรภ์และเลี้ยงลูก เสมือนเป็นอีกคอมมูนิตี้หนึ่ง”
ทั้งนี้จากข้อมูล 3 Insight พบว่า การช็อปปิ้งสำหรับกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่คือ ชื่นชอบความสะดวกสบายจากการช็อปปิ้งออนไลน์ และได้รับส่วนลดพิเศษ ไม่ต้องออกจากบ้านก็สามารถรับสินค้าตรงถึงหน้าบ้าน และจากผลสำรวจพบว่าคุณแม่ 8 ใน 10 ซื้อสินค้าจากไลฟ์ทั้ง TikTok, Facebook และ Shopee
รวมทั้งคุณแม่ยุคใหม่มักจะอ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูปริมาณแคลอรี น้ำตาล ไขมันและรายละเอียดอื่นๆ ตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพทางโภชนาการเช่นทางเลือกสุขภาพ ส่งผลต่อการเลือกซื้อสินค้า และการตัดสินใจจากรีวิวที่เชื่อถือได้ ทั้ง KOLs, Influencer ผู้มีชื่อเสียงที่ใช้จริง รวมถึงการแนะนำจากเพื่อน หรือผู้ใกล้ชิด
ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะรุกตลาดด้วยกลยุทธ์ “Momketing” เต็มรูปแบบ ผ่านการปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าอยู่เสมอ ขยายช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย พร้อมพัฒนาคอมมูนิตี้คุณภาพสำหรับคุณแม่แบบครบวงจร เพื่อเป็นแหล่งแชร์ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความรู้ และข้อมูลข่าวสาร สร้างความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นสำหรับกลุ่มคุณแม่
ในเมืองไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมโปรโมชันและแคมเปญ “Moments for Mom” เพื่อยืนหยัดเป็นผู้นำตลาดที่แท้จริง
สำหรับภาพรวมตลาดสินค้าบำรุงสุขภาพสำหรับการเตรียมตั้งครรภ์และบำรุงน้ำนมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ 250 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% โดยเฉพาะในกลุ่มของ Mommy Booster ที่ยอดขายในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าอัตราการเกิดในยุคปัจจุบันจะลดลง และคู่สามีภรรยาในยุคนี้อาจไม่ต้องการมีบุตร แต่ผู้ที่ตัดสินใจจะมีบุตรนั้นมักเตรียมตัวและใส่ใจในเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก
ในไตรมาสที่สองของปี 2567 ยอดขายของ Mommy Booster ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของสินค้าบำรุงสุขภาพในการเตรียมตัวตั้งครรภ์ในกลุ่มผู้บริโภคยังคงไปต่อได้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคทั่วไประมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าแนวโน้มของตลาดสินค้าบำรุงสุขภาพในการเตรียมตั้งครรภ์และบำรุงน้ำนมจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ จะขยับไปสู่ตลาดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ ผู้สูงอายุ.
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney