สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มในประเทศไทยมีความเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความชื่นชอบสวมใส่เสื้อผ้าที่กลิ่นหอมและรับรู้จากสัมผัสที่นุ่มนวลจากการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม จนเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่หลายๆแบรนด์ได้ให้ความสำคัญและทุ่มงบประมาณพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หรือพีแอนด์จี (P&G) หนึ่งในยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในเครือ ซึ่งเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่ม “ดาวน์นี่” สูตรใหม่ หลังจากว่างเว้นจากกิจกรรมเปิดตัวต่อสื่อมวลชนมานานมาก
พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ “น้องเกล” แอบิเกล รังษีสิงห์พิพัฒน์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เด็กคนแรกของโลกแบรนด์ คู่กับ “แม่ชม” ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ที่เป็นขวัญใจและอยู่ในกระแสที่คนไทยติดตามมาตลอด ซึ่งได้รับการตอบรับจากสื่อและโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก
“ธัญภัค ทองถาวร กุล” ผู้อำนวยฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มซักผ้าปรับผ้านุ่มและปรับอากาศ ดาวน์นี่ (ประเทศไทย) แถลงเปิดตัวว่า ผลิตภัณฑ์ดาวน์นี่ ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดน้ำยาปรับผ้านุ่มในไทยได้เปิดตัวสูตรใหม่ “ดาวน์นี่ ละมุน” เป็นครั้งแรกของดาวน์นี่กับผลิตภัณฑ์กลิ่นอ่อนโยน หอมละมุนจากฟองสบู่และดอกไม้ ต้านกลิ่นอับชื้น หอมยาวนาน 12 สัปดาห์เมื่อเก็บไว้ในตู้ อุณหภูมิ 30 องศา
การใช้น้องแอบิเกลเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เด็กคนแรกของโลก คู่กับคุณแม่ชมพู่-อารยา ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์กับแบรนด์มายาวนานเพื่อสื่อสารว่าผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรใหม่เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว พร้อมกับทุ่มงบประมาณการตลาดมากกว่า 70 ล้านบาท ส่งภาพยนตร์โฆษณาใหม่และทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยตั้ง เป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อีก 5% หรือไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ภายในหนึ่งปี
สำหรับตลาดรวมน้ำยาปรับผ้านุ่มในประเทศไทย จากข้อมูลของนีลเส็น ระบุว่า มีการเติบโตขึ้น 7% จากตลาดรวม มูลค่า 14,398 ล้านบาทต่อปี ยอดขายจากสูตรเข้มข้นถึง 76% ของยอดขายน้ำยาปรับผ้านุ่มทั้งหมด
ขณะที่ข้อมูลจากคันทาร์ชี้ว่า คนไทยชื่นชอบเสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมจากการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม จึงทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ในโลกที่นิยมใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม โดยคนไทยกว่า 91% เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในการซักผ้า
ดาวน์นี่นับเป็นแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์สูตรเข้มข้น (Concentrate) ที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างทางการตลาดด้วยการเพิ่มความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่เพียงใช้ปริมาณแต่น้อย แต่ใช้ผลิตภัณฑ์ได้สะดวกและเต็มศักยภาพ เป็นเทรนด์ของการทำกิจกรรมทางการตลาดที่ช่วยประหยัด ใช้ปริมาณแต่น้อยแต่ประสิทธิภาพเท่ากับผลิตภัณฑ์ทั่วไป อีกทั้งยังช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์ สนับสนุนการลดปริมาณขยะพลาสติก
มีประโยชน์ทั้งสำหรับผู้บริโภคและผู้ผลิตร่วมกัน รวมไปถึงการสร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ในตลาด ที่ผ่านมาหลายๆผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้ม อาทิ ทำความสะอาด, แชมพู ครีมนวดผม, เครื่องสำอาง, เครื่องดื่มน้ำผลไม้, ซอสและเครื่องปรุงรส เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคชาวไทยยังติดนิสัยเหมือนใช้ผลิตภัณฑ์สูตรปกติเพราะเห็นว่าใช้ปริมาณน้อยกลัวไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เช่น เป็นผงซักฟอกเกรงว่าจะไม่สะอาดเพียงพอ หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่น้อยไปก็หวั่นว่าเสื้อผ้ามีกลิ่นหอมไม่พอ
ผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ของดาวน์นี่จึงปรับกลิ่นให้มีความหอมละมุนจากฟองสบู่ อ่อนโยนเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ รวมทั้งให้มีความหอมยาวนานถึง 12 สัปดาห์ โดยยังคงจุดเด่นของแบรนด์ เรื่องการต้านกลิ่นอับชื้นแม้ตากในร่มหรือตากข้ามคืน ช่วยให้ผ้านุ่มพลิ้ว และยังใช้ได้กับเสื้อผ้าเด็กอ่อนอีกด้วย
การปรับสูตรใหม่นับเป็นการตลาดเชิงรุกสื่อสารตรงจุด ตอบโจทย์ผู้บริโภค ตอกย้ำแบรนด์ดาวน์นี่ ผู้นำตลาดอันดับหนึ่งและครองใจผู้บริโภคคนไทยมายาวนาน.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตลาดนัดหัวเขียว” เพิ่มเติม