นายทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแอมเวย์ยังคงเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงอันดับ 1 ของโลก ดำเนินธุรกิจครบ 65 ปีในปีนี้ และ 37 ปีในประเทศไทย โดยในช่วง 50 ปีแรกยังทำธุรกิจแบบ Soap is hope ขายสินค้าเล็กๆน้อยๆ
ที่เน้นสร้างรายได้เป็นหลัก แต่ช่วง 10 ปีให้หลัง แอมเวย์ริเริ่มใช้สุขภาพนำธุรกิจ ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำในตลาดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellbeing) จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ “นิวทริไลท์จากแอมเวย์” แบรนด์วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มียอดขายอันดับ 1 ของไทยและของโลก
“10 ปีของอายุขัยที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ควรจะเป็น 10 ปีที่ยังมีความสุขได้ตามอัตภาพ ไม่ใช่ 10 ปีสุดท้ายที่เป็นภาระลูกหลานหรืออยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน เพราะมีคนจำนวนมากที่ต้องใช้เวลา 10 ปี ของอายุที่ยืนยาวขึ้นอยู่แต่บนเตียงนอน เป็นผู้ป่วยติดเตียง”
เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย แอมเวย์จึงกำลังมุ่งส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีผ่านการให้บริการโซลูชันผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพ โดยมีแบรนด์นิวทริไลท์เป็นเรือธง
เพราะเป็นผู้นำทั้งผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช (Plant-based Protein), ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักแบรนด์ Bodykey, Omega 3 และโพไบโอติกส์
“นิวทริไลท์เป็นแบรนด์วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียงแบรนด์เดียวที่เพาะปลูก เก็บเกี่ยว และมีกระบวนการผลิตด้วยระบบฟาร์มออร์แกนิกที่ผ่านการรับรอง โดยแอมเวย์เป็นเจ้าของฟาร์มออร์แกนิก 4 แห่งใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และบราซิล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15,000 ไร่ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ได้หากผลิตภัณฑ์มีปัญหา นิวทริไลท์ยังมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาจนได้รับสิทธิบัตรด้านโภชนาการมากกว่า 150 ฉบับ มีนักวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมากกว่า 800 คน”
นอกจากนั้น เมื่อปี 2556 แอมเวย์ยังได้เปิดศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์ ณ เมืองอู๋ซี สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นฟาร์มสมุนไพรจีนออร์แกนิกแห่งแรกของโลก โดยที่นี่สามารถผลิตเก๊กฮวยพันธุ์ที่ดีที่สุดของโลก โดยวัดจากองค์ประกอบทางเคมีเมื่อเทียบกับเก๊กฮวยอีก 124 สายพันธุ์ รวมทั้งยังมีการวิจัยอย่างเข้มข้นในพืช ได้แก่ บลูเบอร์รีจำนวน 137 สายพันธุ์ ดอกบัว 324 สายพันธุ์ ตลอดจนพืชสกุลหวายอย่าง Dendrobium และพืชทะเลทรายอย่าง Cintanche ซึ่งถูกนำไปใช้ผลิตเครื่องสำอาง รวมทั้งยังมีปลูกทุเรียนเพื่อการวิจัยด้วย
“ปัจจุบันแอมเวย์ประเทศไทยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ที่มีสมุนไพรจีน ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นส่วนประกอบ ได้แก่ นิวทริไลท์ คอลลาเจน ซึ่งมีสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาวที่คุณภาพดีที่สุดในโลก, นิวทริไลท์ หลินจือ เฮอร์บัล พลัส สกัดจากเห็ดหลินจือและนิวทริไลท์ ซิสแทนเช (Cistanche) สกัดจากโสมทะเลทราย และในปลายเดือน มิ.ย.2567 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “นิวทริไลท์ ลิวิท็อกซ์” (Livitox) ที่สกัดจากบรอกโคลี ชะเอมเทศ และเมล็ดองุ่น”
ทั้งนี้ เมื่อปี 2566 ตลาดขายตรงประเทศไทยมีมูลค่า 56,400 ล้านบาท โดยแอมเวย์ประเทศ
ไทย ในฐานะเจ้าตลาดทำยอดขายอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท เป็นยอดขายที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่
ปี 2563 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด โดยในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แอมเวย์ทำยอดขายได้ 20,190 ล้านบาท ทะลุ 20,000 ล้านบาทได้เป็นครั้งแรก และตั้งเป้าทำยอดขายแตะ 30,000 ล้านบาทให้ได้ในปี 2572 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า
แม้ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น โดย เฉพาะจากเหล่าแม่ค้าออนไลน์ นายทศพรกล่าวว่า แอมเวย์ซึ่งทำธุรกิจขายตรงผ่านนักธุรกิจแอมเวย์ ผลักดันให้นักธุรกิจแอมเวย์ใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการขายสินค้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์มีสัดส่วนที่ 55% แล้ว
“แอมเวย์กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่น่าสนุก เรารู้ว่าจะโฟกัสเรื่องอะไรดีที่ทำแล้ว เราจะได้เป็นเบอร์ 1 แน่ๆ พบมีอยู่ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.All Plant หรือ Whole Plant คือการกินพืชทั้งต้น เพราะทุกส่วนล้วนมาจากธรรมชาติและให้ประโยชน์ 2.ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) การบริโภคผักผลไม้ 5 สี 3.Microbiome (ไมโครไบโอม) ที่ว่าด้วยเรื่องสุขภาพของลำไส้ หากจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารมีความสมดุล จะส่งผลดีต่อร่างกาย”
นายทศพรกล่าวว่า แอมเวย์จะมุ่งหน้าสู่การเป็นแบรนด์สุขภาพอันดับ 1 และเป็นผู้นำตลาด Health & Wellbeing ที่มาพร้อมโซลูชันผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากนิวทริไลท์ ที่ยืนหยัดดูแลสุขภาพผู้คนทั่วโลกมาถึง 90 ปี รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ “อีสปริง”, ผลิตภัณฑ์สำหรับเรือนร่าง “จีแอนด์เอช”, ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟัน “กลิสเทอร์” และเครื่องสำอางอาร์ทิสทรี เป็นต้น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่