กว่า 50 ปีที่ “โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน” หรือที่ทุกคนมักจะคุ้นชินกันในชื่อ “เปาโล สะพานควาย” ได้เปิดทำการมาในคราวนี้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ได้เดินหน้าปรับลุคจากโรงพยาบาลวัยเกษียณ สู่โรงพยาบาลที่ดูเด็กลง ผ่านการยกระดับการให้บริการด้านการแพทย์ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มวัย และมี Active Lifestyle มากขึ้น ด้วยกลยุทธ์การรีแบรนด์สู่ “โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน” ที่จะหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมมากขึ้น
อัฐ ทองแตง ประธานคณะผู้บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กล่าวถึงการรีแบรนด์ว่า เนื่องด้วยย่านพหลโยธิน โยธี อารีย์ ราชวิถี พญาไท พระรามหก และศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ที่มีขีดความสามารถในการให้บริการสุขภาพ เนื่องจากมีโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก รวมทั้งมีออฟฟิศ โครงการอสังหาริมทรัพย์ และย่านการค้า ชุมชน กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงถือได้ว่าในพื้นที่นี้มีลูกค้ากำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จะกลายเป็น “สุขุมวิทแห่งใหม่” เลยก็ว่าได้
จึงทำให้กลุ่มโรงพยาบาลพญาไทต้องการที่จะคงมาตรฐานเดียวกัน เพื่อร่วมบริหารทรัพยากรและการดูแลผู้ป่วยระหว่าง พญาไท 1, 2 และพญาไท พหลโยธิน ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่ม New Age ที่สนใจสุขภาพ และมี Active Lifestyle ดังนั้นการรีแบรนด์โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ในครั้งนี้จึงถือเป็นโรงพยาบาลแห่งยุคที่ตอบโจทย์
“การพลิกโฉมครั้งนี้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ย่านธุรกิจขยายตัวมากขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ใข้บริการเปลี่ยนแปลงตาม จากครอบครัวใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว มีกลุ่มคนทำงาน คนรุ่นใหม่ ชาวต่างชาติ และสังคมสูงวัยที่สนใจสุขภาพมากขึ้น”
ด้าน ผศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลมีผู้มาใช้บริการแบ่งเป็นสัดส่วนคนไทย 70% และชาวต่างชาติ 30% ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา อาหรับ กัมพูชา ฯลฯ หากคิดเป็นสัดส่วนลูกค้าเดิมจะอยู่ที่ 70% และลูกค้าใหม่ 30% รองรับได้ทั้งหมด 210 เตียง โดยส่วนใหญ่ผู้มาใช้บริการจะเป็นกลุ่มผ่าตัด กระดูกและข้อ และโรคหัวใจเป็นหลัก ซึ่งการรีแบรนด์ในครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสให้คนไข้เข้าถึงบริการได้มากขึ้น
“ในเรื่องของการปรับราคา เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมแม้ว่าจะมีการรีแบรนด์ก็ตาม ยกเว้นสภาพกลไกตลาด เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ถือเป็นวัฏจักรของการดำเนินธุรกิจที่ราคาอาจจะมีการปรับขึ้นตาม ส่วนประกันสังคมทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการรับตรงจุดนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ผศ.นพ.วีรยะ มองว่า ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน มีการแข่งขันสูง เนื่องจากในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีจำนวนมาก และจำนวนคนที่ต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลก็มีมากขึ้นเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มีกำลังใช้จ่ายกับเรื่องสุขภาพ สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อาทิ กลุ่ม HENRY หาเงินเก่ง ใช้เก่ง กล้าใช้จ่ายกับไลฟ์สไตล์
ดังนั้นเพื่อยกระดับการให้บริการด้านการแพทย์ที่ตอบโจทย์ทุกวัย และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทาง รพ.จึงได้ส่งมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่ครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ทำให้การดูแลผู้ป่วยสะดวกและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
อาทิ แอปพลิเคชัน Health Up ที่ช่วยนัดหมายและติดตามนัดจากที่บ้าน รวมถึงบริการ Telecare ปรึกษาปัญหาสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์จากโรงพยาบาลที่คนมารักษาโรค เป็น สถานที่สำหรับช็อปปิ้งสุขภาพ เน้นการสร้างเสริม Health&Wellness ในทุกมิติ โดยที่คนไข้เดิมของโรงพยาบาลเปาโลก็ยังสามารถเข้ามารับบริการได้เป็นปกติ.
ติดตามข้อมูลด้านการตลาด กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney