หลายปีที่ผ่านมา วงการอาคารสำนักงาน หรือ ออฟฟิศบิวดิ้ง ของเมืองไทย เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาก ของเทรนด์การทำงานยุคใหม่ และจำนวนซัพพลายใหม่ๆ ที่เข้ามาในตลาดอย่างหลากหลาย เพื่อช่วงชิง “ผู้เช่า” ที่ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่อง “ทำเล” เป็นที่หนึ่ง
ซึ่งปีนี้เอง จะมีอาคารสำนักงานเกรด A ระดับลักชัวรี่ใหม่ๆ ที่กำลังจะแล้วเสร็จ 1 ในนั้น คือ KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) โปรเจกต์อาคารสำนักงาน ระดับ Iconic Grade A ขึ้นแท่นสถาปัตยกรรมสูงที่สุด (255 เมตร) รอบล้อมด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งตระหง่านเคียงคู่สะพานภูมิพล ใจกลาง ย่านพระราม 3
อสังหาฯดังกล่าว ยังนับเป็นโปรเจกต์ออฟฟิศแห่งแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ อย่าง เครือสหพัฒน์ ของตระกูล 'โชควัฒนา' ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย
หากย้อนไปจุดเริ่มต้น “คิงบริดจ์ ทาวเวอร์’ ยังถือเป็นอาคารสูงแห่งแรกของเครือสหพัฒน์หลังผ่านการดำเนินงานมากว่า 80 ปี โดยคาดจะเป็นโปรเจกต์แม่เหล็ก และเป็นพื้นที่ให้พันธมิตรบริษัทต่างๆ ทั้งไทยและเทศ รวมทั้งบริษัทในเครือ พูดคุยหารือ สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกันด้วย
สำหรับ โครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ (KingBridge Tower) มูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 6 ไร่ 52 ชั้น โดยปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% จะแบ่งเป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่าและศูนย์รวมร้านอาหารและบริการต่างๆ ภายในอาคารประกอบด้วย พื้นที่สำนักงานให้เช่า, พื้นที่ Co-working Space, ห้องประชุม, Healthy Canteen, ร้านอาหาร, สวนแนวตั้ง, ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567
ล่าสุด “วิชัย กุลสมภพ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน โครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ มีจำนวนผู้เช่าแล้วกว่า 50% อาทิ บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด, บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปรวมกันในระดับหลักแสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการรวมผู้ประกอบที่ดี บริษัทที่ดี เข้ามาอยู่ในตึกนี้เพื่อช่วยผสานพลังในการผลักดันให้เศรษฐกิจในย่านพระราม 3 คึกคักมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตทำให้สามารถเปลี่ยนแปลง Landscape ของพระราม 3 ได้ โดยเรายังมีแผนสร้างความเจริญและพัฒนาย่านพระราม 3 อย่างต่อเนื่องอีกในอนาคต
ด้าน “ชาติ จันทร์วิจิตร” ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กว่า 55 ปีของไลอ้อนฯ ซึ่งมีออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านพระราม 3 (สาธุประดิษฐ์) มาตลอด วันนี้พร้อมและภูมิใจที่จะขยับขยายสู่บ้านหลังใหญ่ที่สูงตระหง่าน โดยหลังจากปลายปี 2567 พนักงานกว่า 300 ชีวิตมาทำงานที่บ้านหลังใหม่แห่งนี้ ซึ่งจะเป็น milestone สำคัญที่จะยกระดับการใช้ชีวิตการทำงานของพนักงานของบริษัท การสร้างความเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน และมั่นใจว่า อาคารแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Iconic Landmark แห่งใหม่ที่ช่วยสร้างความคึกคัก และเศรษฐกิจย่านพระราม 3 รองรับผู้เช่าและนักลงทุนทั้งไทย-เทศ ได้เป็นอย่างดี”
ความพิเศษของ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานอัจฉริยะ (Smart Building) ที่ผู้เช่าสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่าน Smart Dashboard และ Application ได้ และลิฟต์ภายในอาคารจอดรถยังใช้ระบบ Hologram ที่แรกในประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแนวคิดการออกแบบที่เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล คือ“กลมกลืน” ไปกับบริบทและความงดงามของสะพาน
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney