อันนั้นก็ดูดี อันนี้ก็อยากได้! ผู้บริโภคกลุ่ม HENRY รายได้สูง แต่ใช้จ่ายเกินเบอร์ จนไม่รวยสักที

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อันนั้นก็ดูดี อันนี้ก็อยากได้! ผู้บริโภคกลุ่ม HENRY รายได้สูง แต่ใช้จ่ายเกินเบอร์ จนไม่รวยสักที

Date Time: 24 มี.ค. 2567 16:49 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ใคร่จะซื้ออะไรก็ซื้อ ใคร่จะอยากได้อะไรก็เปย์! เป็นพฤติกรรมที่จะสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้ยอมจ่าย ถ้าอยากได้ของที่ต้องการ ไม่สนแม้จะไร้เงินเก็บ หรือว่าจะไม่รวยสักที ซึ่งตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มคนที่เรียกว่า HENRY หรือ High Earners, Not Rich Yet ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูง แต่ยังชอบใช้จ่ายเกินเบอร์ทำให้ขาดความมั่งคั่งในชีวิต และไร้เงินเก็บ

Latest


อุ๊ย! อันนั้นก็ดูดี อันนี้ก็อยากได้ กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า มือถือ หนูอยากได้! ถ้าคุณกำลังมีแนวคิดเช่นนี้ ประเภทที่ ‘ของมันต้องมี’ จนทำให้ฟุ่มเฟือยเกินตัว ใช้จ่ายเกินมือ อาจจะกำลังบ่งบอกว่าคุณเข้าข่ายพฤติกรรม ‘HENRY’ หรือที่เรียกว่า High Earners, Not Rich Yet กลุ่มคนที่รายได้สูง แต่ยังไม่รวยสักที

โดยกลุ่ม HENRY นับเป็นผู้ที่มีรายได้สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ก็ยังไม่มีความมั่งคั่งทางการเงินสักที บางรายมีรายได้ปีละหลายล้านบาท แต่ก็มีภาระค่าใช้จ่ายสูงเป็นเงาตามตัว เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงค่าเข้าสังคมที่ต้องตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตัวเอง 

HENRY ส่วนใหญ่ ไม่สนเงินเก็บ ชอบใช้ชีวิตหรูหรา

โดยส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก เนื่องจากมีศักยภาพในการทำงาน มีรายได้สูง ทำให้มีกำลังซื้อมากกว่าคนกลุ่มอื่น อีกทั้ง คนรุ่นใหม่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี เคยชินกับความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีแนวโน้มการใช้จ่ายที่สูงกว่าคนรุ่นอื่นๆ และใช้ชีวิตที่ค่อนข้างหรูหรา ไม่ว่าจะเรื่องการท่องเที่ยว การซื้อสินค้า การใช้จ่ายด้านความสวยความงามต่างๆ

เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นการเพิ่มความสุขให้กับตัวเองหลังจากทำงานมาอย่างหนักตลอดสัปดาห์ จนทำให้แทบจะไม่มีเงินเก็บเลยก็ว่าได้ ทำให้การบริหารจัดการเงินจึงเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่นี้ควรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยจากข้อมูลพบว่า ส่วนใหญ่จะมีรายได้ระหว่าง 250,000-500,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 9.1-18.2 ล้านบาท

ร่ำรวยจากการทำงาน ไม่ใช่ความมั่งคั่งที่สะสมไว้

จึงกลายเป็นว่าคนที่มีพฤติกรรมแบบ HENRY ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก สำหรับสินค้าแบรนด์ระดับลักชัวรี่ที่ปรารถนาผู้บริโภคหน้าใหม่ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสของสถาบันการเงินหรือตัวแทนประกันชีวิตที่สามารถเริ่มสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับพวกเขาได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนกลุ่มนี้หยุดทำงาน พวกเขาก็จะไม่มีเงินทันที โดยเฉพาะคน Gen Y และ Z ที่มีแนวโน้มเป็น HENRY กันอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่ความร่ำรวยมาจากการทำงานไม่ใช่ “ความมั่งคั่ง” ที่สะสมไว้ 

นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์หรือบริการระดับหรู ที่จะแทรกซึมเข้าไปในไลฟ์สไตล์ของ HENRY และเริ่มสร้างความภักดีต่อแบรนด์ เนื่องจากมี HENRY ในโลกมากกว่ากลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวยเป็นพิเศษ ทำให้นักการตลาดเชื่อว่า HENRY มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ซื้อที่มีความมุ่งมั่นมากกว่ากลุ่มอื่นๆ นั่นก็เพราะว่ารายได้ของกลุ่มนี้คิดเป็นประมาณ 40% ของการใช้จ่ายในครัวเรือน

จึงไม่แปลกที่แบรนด์หรูอย่าง TAG Heuer แบรนด์นาฬิกาสวิสที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และ Louis Vuitton แบรนด์ดังระดับโลก ครั้งหนึ่งเคยให้มุ่งเจาะกลุ่มให้บริการเฉพาะชนชั้นสูงในสังคม ต่างก็ได้พัฒนากลยุทธ์การตลาดใหม่ที่กำหนดเป้าหมายไปที่ HENRY โดยใช้การโฆษณา ดารา และนักกีฬายอดนิยม ที่ฮอตฮิตให้กลุ่มคนพฤติกรรมนี้ เพื่อส่งเสริมความน่าดึงดูดใจ และสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย HENRY ได้อย่างตรงจุด เพราะส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้มักจะใช้ โซเชียลมีเดียเพื่ออวด “ของที่มี” ให้กับผู้อื่นได้เชยชม ซึ่งเป็นการแสดงตัวตนของคนยุคนี้เลยก็ว่าได้ 

อ้างอิง investopedia , GRID BY PEA 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing 


ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ