โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) มูลค่าการลงทุนถึง 120,000 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 108 ไร่ ทำเลทองผืนสุดท้ายใจกลางเมือง บนถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ ถูกปั้นให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่จะช่วยปักหมุดให้กรุงเทพฯก้าวสู่มหานครชั้นนำของโลก ประกาศพร้อมเปิดตัวเฟสแรกในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่มุ่งเดินหน้าเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนให้กรุงเทพฯขึ้นแท่นเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก วัน แบงค็อกจะเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ใหม่ที่พร้อมจะเปิดตัวและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ไม่เพียงเท่านั้น แต่จะกลายเป็นย่านการค้าแห่งใหม่ เป็น One Bangkok District เป็นสมาร์ทซิตี้เมืองต้นแบบที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ หมุดหมายสำคัญสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุนอีกด้วย เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจอื่นๆ อาทิ สาทร สีลม สามย่าน
ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด พร้อมทั้งสร้างพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ รวมเป็นพื้นที่กว่า 700 ไร่ ซึ่งเปรียบเสมือนปอดผืนใหญ่ใจกลางกรุง เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum
นับเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ประกอบด้วย อาคารสำนักงานแบบพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร โรงแรมระดับลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ 5 แห่ง อาคารที่พักอาศัยระดับลักชัวรีอีกจำนวน 3 อาคาร และ Signature Tower อาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย
วัน แบงค็อก เป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่อันดับสองในสิงคโปร์ มีโครงการลงทุนกว่า 20 ประเทศ ทั้งสองบริษัทอยู่ภายใต้อาณาจักรธุรกิจของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางผู้บริหาร นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ได้นำทีมเปิดตัว One Bangkok Retail อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญและเติมความสมบูรณ์ให้กับโครงการ กับการปั้นเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งในภูมิภาคเอเชีย
One Bangkok Retail จะรวบรวมประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เหนือระดับแบบครบวงจรที่สุดไว้ในที่เดียว ภายใต้ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้ง 3 แห่ง ใน 3 อาคาร พื้นที่เชิงพาณิชย์รวม 160,000 ตารางเมตร กับแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์กว่า 900 ร้านค้า ด้วยแนวคิดและดีไซน์เฉพาะที่แตกต่างกันแต่เชื่อมต่อกัน เป็นหนึ่งเดียวไร้รอยต่อ ประกอบด้วย
1.Parade ภายใต้แนวคิด “A World of Choice Without Limits” นำเสนอสีสันแห่งชีวิตอันไร้ขีดจำกัด บนพื้นที่เช่า 85,000 ตร.ม. จำนวน 9 ชั้น ด้วยการผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ Shop-Play-Work-Eat เปรียบเสมือน Open Play ground สำหรับทุกคนในครอบครัว รวบรวมร้านค้าแบรนด์ดังครั้งแรกในไทย รวมถึงสุดยอดร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ ตลอดจนซุปเปอร์ มาร์เกตที่จำหน่ายสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก
2.THE STOREYS นำเสนอแนวคิด “Tell Your Own Story at THE STOREYS” แพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ จุดบรรจบของเทรนด์โลกใหม่ๆบนพื้นที่เช่ารวม 5 ชั้น 35,000 ตร.ม. พบร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย และคอนเซปต์สโตร์สุดฮิป นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงเอาต์ยามค่ำคืน
3.POST 1928 ด้วยแนวคิด “Go Beyond Luxury” ก้าวข้ามนิยามความเป็นลักชัวรีไปอีกขั้น ด้วยประสบการณ์ช็อปปิ้งสุดล้ำเหนือระดับกว่าที่เคย บนพื้นที่เช่า 5 ชั้น 40,000 ตร.ม. พบกับถนนช็อปปิ้ง (Shopping Street) สายแรกของกรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านค้าแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ในรูปแบบ Standalone มาให้ช็อปอย่างจุใจตลอดสองฝั่งถนน
ส่วนที่จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ในปีนี้เฟสแรกคือ Parade และ The STOREYS รวมถึงพื้นที่อาคารสำนักงาน 2 อาคาร จาก 5 อาคาร, luxury residence, โรงแรม 2 แห่งได้แก่ The Ritz-Carlton Bangkok และ Andaz One Bangkok ส่วนโซนรีเทล POST 1928 จะเปิดในเฟสต่อไป
นอกจากรีเทลแล้วยังมี Food Loop รวมร้านอาหารทุกรูปแบบกว่า 250 ร้าน จากทั่วโลกและในประเทศไว้ในที่เดียว ความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร รอรับผู้คนตั้งแต่ 07.00-02.00 น. Art Loop พื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ Public Realm พื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวของโครงการ และ Live Entertainment Arena พื้นที่จัดการประชุม นิทรรศการ งานแสดงที่ได้มาตรฐานระดับสากลที่สามารถจัดอีเวนต์ตลอดปี รองรับผู้คนได้มากถึง 6,000 คน ตั้งเป้ารองรับผู้คนเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 90 ล้านคน คนไทยและกลุ่มเอ็กซ์แพต (Expat) 60% และนักท่องเที่ยว 40%
นายปณต สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า การดำเนินโครงการในช่วงที่ผ่านมามีความก้าวหน้าไปรวดเร็ว ทำให้จัดการเฟสใหม่จาก 3 เฟส เหลือ 2 เฟส เพราะในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เดินหน้าก่อสร้างโดยไม่หยุด ด้วยวิธีการทำการก่อสร้างแบบปิดในโครงการ โดยในปีนี้ One Bangkok จะเปิดได้ 70%ของโครงการ
พร้อมกับความมั่นใจว่าโครงการขนาดใหญ่จะประสบความสำเร็จกับการสร้าง District ขึ้นมาใหม่ รองรับทั้งจากผู้คนที่เข้ามาทำงานพำนักอาศัยวันละ 50,000 คน แล้วยังรองรับผู้คนทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้ชีวิตที่เหนือระดับในทุกๆวัน.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ "ตลาดนัดหัวเขียว" เพิ่มเติม