5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง ปี 2567 เมื่อ Gen Z กลุ่มผู้บริโภคหลัก ซื้อ “สินค้า” น้อย แต่ซื้อบ่อยขึ้น

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง ปี 2567 เมื่อ Gen Z กลุ่มผู้บริโภคหลัก ซื้อ “สินค้า” น้อย แต่ซื้อบ่อยขึ้น

Date Time: 24 มี.ค. 2567 12:00 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • FutureSkill เปิด 5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง เมื่อ Gen Z ซื้อ “สินค้า” น้อย แต่บ่อยขึ้น เน้นความคุ้มค่า ขณะโซเชียลมีเดีย มีบทบาท ต่อการทำการตลาด และช่องทางขาย แนะ อยากโตไว AR และ AI ต้องมา "คลิปวิดีโอสั้น" มีความสำคัญ โปรโมตสินค้า

Latest


FutureSkill แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ทักษะแห่งอนาคต ระบุว่า ปัจจุบันการทำธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเวลา ขณะในยุค ที่ "เทคโนโลยี" กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของคนไทย ส่งผลให้มีการซื้อขายสินค้า และบริการ ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

พฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคเอง มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ Gen Z ที่พบว่า มีการซื้อ “สินค้า” ทีละน้อย แต่ซื้อบ่อยขึ้น ก่อเกิดเทรนด์ธุรกิจ มาแรงต่างๆ ดังนี้ 

5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง 

1. กลุ่มคน Gen Z มีอิทธิพลต่อตลาดปัจจุบัน และไม่ Loyalty กับแบรนด์อีกต่อไป

จากผลสำรวจของ Meta พบว่า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากร Gen Z กว่า 500 ล้านคน และในอนาคตอาจมีอัตราส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค โดยประชากร Gen Z เป็นผู้บริโภคกลุ่มที่นักการตลาดและแบรนด์หันมาให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจาก มีพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน สัดส่วนประชากรของ Gen Z ในไทยก็สูงถึง 35% ดังนั้น Gen Z ก็ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนโลกออนไลน์ได้อย่างชัดเจน

Gen Z เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้มีทักษะในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง รวมถึงพร้อมที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเช่นกัน เรื่องของการซื้อสินค้าและบริการ แน่นอนว่าต้องผ่านการหาข้อมูล ดูรีวิวบนโลกออนไลน์ หากถูกจริต รู้สึกคุ้มค่า ก็พร้อมเปย์ทันที!

ด้วยความที่มีความฉลาดเลือกของคนกลุ่มนี้ หากธุรกิจไหนปรับตัวไว สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้ จะมีความได้เปรียบเหนือแบรนด์อื่น และหากได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี ก็พร้อมที่จะจากไปทันที เนื่องจากมีตัวเลือกเยอะ และคนกลุ่มนี้เปิดใจให้แบรนด์ใหม่ได้ง่ายกว่า Gen อื่น ๆ

2. เศรษฐกิจคนโสดมาแรง ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

เศรษฐกิจคนโสด (Solo Economy) เป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งตลาดทั่วโลกกำลังขยายตัว จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากร คนสมัยนี้เป็น “โสด” มากขึ้น และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และ Mindset ของคนรุ่นใหม่ที่ขอคิดแค่เรื่องงาน เรื่องเงินพอ ถ้ามีคู่แล้วเหนื่อยกว่าเดิม ไม่มีดีกว่า!

หลายธุรกิจจึงหันมาตีตลาด เจาะกลุ่มคนโสดมากขึ้น ทำให้สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับคนโสดมาแรง คนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างชัดเจน พฤติกรรมการใช้เงินแบบคนโสด (Solo Financial) คือซื้อทีละน้อย แต่ซื้อบ่อย รู้สึกว่าการจ่ายเงินจำนวนน้อยเป็นเรื่องง่าย และไม่ต้องคิดเยอะเท่าการจ่ายเงินก้อนใหญ่

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ธุรกิจควรปรับกลยุทธ์กาลตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค หากเจาะตลาดนี้ได้ ธุรกิจของคุณอาจจะประสบความสำเร็จได้อย่างคาดไม่ถึง

3. โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมผู้บริโภค

ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดีย เพราะลูกค้ายังคงนิยมติดต่อกับแบรนด์ และหาข้อมูลต่างๆ ผ่านการส่งข้อความ (Business Messaging) มากกว่าการค้นหาด้วยตัวเองบนเว็บไซต์

พบว่ามีการแชตผ่าน Meta กว่า 600 ล้านข้อความต่อวัน โดยผู้บริโภคมีคาดหวังให้แบรนด์มีความพร้อมและสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา และเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ไว นอกจากนี้ ผู้บริโภค โดยเฉพาะ Gen Z ชอบแชร์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย

4. อย่าเลิกทำวิดีโอสั้น (Reels)

เพราะเป็นรูปแบบของคอนเทนต์ที่ยังได้รับความนิยมทั่วโลก และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้ หลังพบว่า ปัจจุบันมีคนใช้ Reels กว่า 2 แสนล้านครั้งต่อวัน และประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ที่ใช้ Reels โดยกลุ่ม Gen Z พร้อมที่จะติดตามแบรนด์และซื้อสินค้า หากถูกใจหลังจากชมวิดีโอ ยิ่งไปกว่านั้นคือการส่งต่อให้คนรู้จัก ซึ่งนับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่แบรนด์แทบจะไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก

ทั้งนี้ Meta ยังสรุปไว้อีกว่า ธุรกิจควรต่อยอดประสบการณ์ให้ลูกค้าผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะจะทำให้ทันยุคสมัย ทันใจลูกค้า และอาจช่วยรักษา Loyalty เอาไว้ได้

5. ธุรกิจโตไวได้ด้วย AR และ AI

จากรายงานของ Meta พบว่า Gen Z ชาวไทยชื่นชอบการใช้ AR Filter มาก เพื่อสร้างประสบการณ์ก่อนใช้เงิน ดังนั้น แบรนด์ไหนยังไม่ทำ ถือว่าพลาด

และการนำ AI มายกระดับ Digital Customer Experience เป็นทางเลือกที่ดี(มาก) ของนักการตลาดยุคนี้ เพราะ AI แทบจะอยู่ในชีวิตของทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เห็นได้จากการนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งคาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

Meta เองก็มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะเรื่องของการทำโฆษณา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักการตลาดที่ใช้เครื่องมือ Advantage+ Creative บน Meta โดยเกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ FutureSkill ยังระบุว่า ปัจจุบัน แวดวง Marketing และ Creative เอง ก็มีการใช้ AI เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ที่มา : FutureSkill 

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney

.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ