ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทยกว่า 100,000 คน สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่า ประเทศไทยติดอันดับต้นๆ ที่ “คนจีน” อยากมาท่องเที่ยวมากที่สุด ดังนั้นช่วง “เทศกาลตรุษจีน 2567” ที่จะมาถึงในวันที่ 9-14 ก.พ.2567 เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะจัดกิจกรรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวจีน และคนไทยเชื้อสายจีน ทั้งจากจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย
“ห้างเซ็นทรัล” จึงได้ ต้อนรับการก้าวสู่ฮวงจุ้ยยุคที่ 9 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทุ่มงบ 500 ล้านบาท จัดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2024” ตอกย้ำแลนด์มาร์กแห่งการฉลองที่ดีที่สุดทุกเทศกาล จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ครบจบในที่เดียว ชู 3 กลยุทธ์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวไทยไตรมาสแรกของปี อัดแคมเปญตรุษจีนผ่าน 39 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มระหว่างวันที่ 10 มกราคม-20 กุมภาพันธ์ 2567 #ช้อปเซ็นทรัลเฮงปังดังรวย ที่ศูนย์การค้าและ #ช้อปมั่งมีโชคดีปีมังกร ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
ส่วนไฮไลต์สุดยิ่งใหญ่ตั้งแต่การจับมืออาร์ทติสระดับโลกชาวฝรั่งเศส Jeanne Detallante (จาน เดอทาลอง) เนรมิตเซ็นทรัลสู่ Dragon Kingdom พร้อมกับการชูงานศิลป์สะท้อนอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่นทุกภาคทั่วประเทศ และพลาดไม่ได้กับไฮไลต์พิเศษที่ห้างเซ็นทรัล พบกับหัวมังกรสุดอลังการตั้งตระหง่านใจกลางกรุง พร้อมให้ทุกท่านเก็บความประทับใจที่ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ย้ำแลนด์มาร์กตัวจริงด้านการไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรวมของไหว้ สินค้าและอาหารมงคลที่ Chinese Market ที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ และเสริมความมงคลรับต้นปีกับครั้งแรกในไทยกับพิธีไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ นำโดย หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา และห้างเซ็นทรัล ตอกย้ำความเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งในทุกเทศกาล เริ่มต้นแคมเปญแรกต้นปีด้วย 3 กลยุทธ์ที่ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ เน้นโฟกัส 3 กลุ่ม Quality Target ได้แก่ คนไทยเชื้อสายจีน, คนรุ่นใหม่ และ นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวมาเลเซียและจีน ซึ่งถือว่าติดอันดับชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด สอดรับกับโครงการ ‘Easy E-Receipt’ ของภาครัฐที่จะยิ่งกระตุ้นจับจ่ายเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรก ตั้งเป้า ทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 20% ทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะสร้างเงินสะพัดจากแคมเปญกว่า 15,000 ล้านบาท
ด้าน ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เราเล็งเห็นศักยภาพของการเติบโตทั้งระบบเศรษฐกิจไทยตลอดไตรมาส 1 ที่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเริ่มกลับมาจับจ่ายต่อเนื่องตั้งแต่ปีใหม่ จึงอยากสร้างฟีลช้อปให้ยาวต่อไปถึงตรุษจีนด้วยการผนึกกำลังระหว่างห้างฯ- ศูนย์การค้าฯ และ Central The 1 Credit Card เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้ง และการเฉลิมฉลองที่ดีที่สุดสำหรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศ
3 กลยุทธ์ ตอกย้ำแลนด์มาร์กแห่งการฉลองที่ดีที่สุดทุกเทศกาล
กลยุทธ์ที่ 1: Powerful Tourism and Economic Boosters
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านศูนย์การค้า 39 สาขาทั่วประเทศ จัดกิจกรรมพร้อมโปรโมชั่นฉลองตรุษจีน สร้างดีมานด์ปลุกกำลังซื้อไตรมาสแรก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาใช้เวลาช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนที่ประเทศไทย โดยสถิติจากกองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 28 ล้านคน ข้อมูลจาก ททท. มีนักท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย (4.5 ล้านคน) และจีน (3.5 ล้านคน) โดยนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากมาตรการฟรีวีซ่า คาด ปี 67 นี้จะเป็นไปตามเป้าที่ภาครัฐวางไว้
โดยเซ็นทรัลพัฒนา ได้เตรียม Tourist package ต้อนรับนักท่องเที่ยวผ่าน Tourist malls ทั้ง 15 ศูนย์การค้า นอกจากนี้ ยังได้ร่วมโครงการ Easy E-Receipt มาตรการลดค่าครองชีพ โดยสามารถขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt กิน ช้อป ชิล ที่เซ็นทรัลทุกสาขา ได้สูงสุด 50,000 บาท รับเงินคืนภาษีสูงสุด 17,500 บาท* ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567
กลยุทธ์ที่ 2 : The Destination of the Enriched Culture
เซ็นทรัลรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาไว้ที่เดียว พร้อมผนึกกำลังกุนซืออย่าง “หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา” รวมไฮไลต์ความมงคล ครั้งแรกในไทย พิธีไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไทย หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ นำพิธีโดยหมอช้าง พร้อมคณะสงฆ์จีนสวดมนต์ให้พรเสริมสิริมงคลครั้งแรกในโลก กำแพง 9 มังกรดิจิทัลที่ยาวที่สุด ไหว้ครั้งเดียวโชคดีตลอด 20 ปี อัญเชิญเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ จากทั่วสารทิศ ประดิษฐานที่เซ็นทรัลทั่วไทยและรวมของไหว้มหามงคลที่ Chinese Market
กลยุทธ์ที่ 3 : East-meets-West Art & Culture
เนรมิตทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเป็น Dragon Kingdom โดยฝีมือการออกแบบของศิลปินชาวฝรั่งเศส Jeanne Detallante (จาน เดอทาลอง) ผลงานอาร์ต ที่ผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย กับลายแบบ Art Nouveau เนรมิตห้างให้เป็นที่สุดแห่งแลนด์มาร์กตรุษจีน อย่างหัวมังกรมหามงคล จึงทำให้งานมีสีสันสดใส มีรายละเอียดที่ดูลักชูรี และการนำลวดลายของธาตุต่างๆ มาจัดองค์ประกอบให้หลากหลาย
รวมทั้งกิจกรรม “Chinese Dragon Filter And AR” สนุกกับ AR มังกรที่จะโผล่ออกมาให้ทุกคนได้ร่วมเฟรมถ่ายรูป หรือ “Chinese AI Photo Snap” เปลี่ยนลุคการแต่งกายแบบจีนด้วย AI รวมถึง Store Activity และโชว์ชุด “Chinese Dragon Dance On Cherry Blossom Pillars” การแสดงเชิดสิงโต
พร้อมจับมือคอมมูนิตี้ศิลปินท้องถิ่นไทยทั่วประเทศ ร่วมสร้างสรรค์ ประติมากรรม 17 มังกรหัตถศิลป์มงคลสุดยิ่งใหญ่ ถ่ายทอดผ่านศูนย์การค้า 17 สาขาทั่วประเทศ และพลาดไม่ได้ กับ 9 จุดถ่ายรูป Photo Spot พร้อม ไฮไลต์ที่เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Central court พบมังกร Inflatable ขนาด 114 เมตร ยาวที่สุดในประเทศ
ทั้งนี้ยอดขายที่มีจากนักท่องเที่ยวจะเติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2019 หรือช่วงก่อนโควิด โดยมีนักท่องเที่ยวคุณภาพมากขึ้นจากลุ่มรัสเซีย ตะวันออกกลาง อินเดีย ที่เพิ่มเข้ามาด้วยนอกเหนือจากจีน และมาเลเซียที่เข้ามาอยู่แล้ว ส่วนสาขาที่มียอดขายสูงสุดคือ เซ็นทรัลชิดลม ที่กำลังรีโนเวท คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ส่วนสาขาที่มียอดขายรองลงมาคือ เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลเวิลด์ ขณะที่ยอดทราฟฟิกในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.3 ล้านคนต่อวัน รวมกันทุกศูนย์การค้า
ซึ่งในเทศกาลตรุษจีนปี 2567 นี้ คาดว่ายอดขายจะไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนความท้าทายที่มองไว้คือ เศรษฐกิจโลก สงคราม ที่มีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ขณะที่แคมเปญใหญ่ที่จัดขึ้นนั้น จะผลักดันกำลังซื้อให้เพิ่มมากขึ้น