หากพูดถึงสินค้าที่มักจะได้รับความนิยมตลอดเทศกาลส่งท้ายปี นั่นคือ “กระเช้าปีใหม่” ที่บรรดาห้างค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้า เดินเกมกระตุ้นตลาด นำเสนอกระเช้าของขวัญหลากหลายรูปแบบ พร้อมแคมเปญและโปรโมชันครั้งใหญ่ หวังโกยยอดขายช่วงสิ้นปี ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่นที่ลูกค้าทั้งชาวไทยและ นักท่องเที่ยวต่างชาติจับจ่ายมากที่สุด ทำให้ภาพรวมการแข่งขันของตลาดกระเช้าปีใหม่เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2565 ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ ตลาดกระเช้าและสินค้าของขวัญในปี 2566 คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากแรงหนุนจากปัจจัยเชิงบวกในหลายด้านของภาคธุรกิจ อีกทั้งความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะขยายตัวราว 4-5% ในปี 2567
ส่วนทางด้านผู้ประกอบการค้าที่โหมโรง นำเสนอกระเช้าปีใหม่กันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กูร์เมต์ มาร์เก็ต จากเดอะมอลล์, ท็อปส์, บิ๊กซี, โลตัส และ แม็คโคร
โดยแคมเปญกระเช้าปีใหม่ ได้จุดพลุเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม และคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับสินค้ากระเช้าปีใหม่ที่ถูกนำมาเสนอ มีทั้งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ สินค้าเพื่อสุขภาพ อาหารและของใช้ ผลไม้ สินค้า OTOP สินค้ารักษ์โลก ไปจนถึงกระเช้าของขวัญเพื่อสุนัขด้วย ทำให้ราคากระเช้าอาจพุ่งสูงถึง 20,000 บาท จึงได้มีการคาดการณ์ว่ายอดขายกระเช้าปีใหม่ปีนี้จะเติบโต 10-45% เลยทีเดียว
ประเดิมกันที่ “เดอะมอลล์” ก็ได้เปิดตัวแคมเปญ “Gourmet Market Blissful Hampers 2024” เมื่อต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเร็วกว่าปีที่แล้ว 3-4 สัปดาห์ เพื่อตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจและความตระหนักในการใช้จ่ายของลูกค้า โดยกระเช้าปีใหม่มีหลายระดับราคา ซึ่งราคาสูงสุดต่อตะกร้าในปี 2566 ลดลงเหลือ 2,500 บาท จาก 3,000 บาท ในปี 2565 ทำให้เข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมกับคัดสรรสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมมากมายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 30,000 รายการ
ขณะที่ภาพรวมตลาดในช่วงปลายปีนี้ กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อที่ดีมากขึ้น และมีการใช้จ่ายที่คึกคัก แต่ในบางส่วนยังมีการระมัดระวังในการใช้จ่ายอยู่ ส่วนในปีนี้จะเน้นสินค้าทั้งจากอิตาเลียน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่กระนั้นก็ยังมีสินค้าเพื่อสุขภาพของไทย และ Local อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
“ในปี 2566 นี้ ราคากระเช้าของอิตาลีมีราคาไม่แพงมาก โดยบริษัทฯ ได้รับการตอบรับเชิงบวกต่อตะกร้าจากอิตาลีตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พร้อมเสริมว่าปีนี้คาดว่ายอดขายกระเช้าปีใหม่จะเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายอยู่กว่า 200 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเดอะมอลล์ยังได้เปิดตัว “Beauty Hall The Great Happy New Year 2023” โดยกิจกรรมทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ ทำให้แบรนด์ความงามกว่า 200 แบรนด์ ได้กลับมาเปิดตัวปีใหม่อีกครั้ง รวมทั้งชุดของขวัญและคอลเลกชันพิเศษ ที่จะจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 1,500-19,990 บาท
ด้าน “บิ๊กซี” ได้จัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรในการทำแคมเปญ Big C Moments of Happiness ร่วมกระตุ้นตลาดและอารมณ์ในการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. - 3 ม.ค. นำเสนอกระเช้าของขวัญปีใหม่กว่า 60 แบบ อาทิ สก๊อต, แบรนด์, ดอยคำ, ดอยตุง, อิมพีเรียล, เฟอเรโร รอชเชอร์ ฯลฯ พร้อมผลิตภัณฑ์พิเศษกว่า 7,000 รายการ ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท
สำหรับสินค้ากระเช้าปีใหม่ที่สร้างยอดขายได้ดี และได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา จะมีราคาตั้งแต่ 1,099-3,299 บาท โดยประเมินว่าในช่วงเทศกาลของขวัญจะสร้างยอดขายได้ถึง 2,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ จากข้อมูลบิ๊กซีได้มีการศึกษาอินไซต์ของลูกค้าจากการใช้ดาต้าของบิ๊กซีพอยท์ พบว่ากลุ่มลูกค้าหลักที่ซื้อกระเช้าเป็นผู้หญิง 66% ซึ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 35-50 ปี โดยเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้า มาจากรูปลักษณ์กระเช้าที่สวยงาม ความสร้างสรรค์ในการออกแบบกระเช้าปีใหม่
ขณะเดียวกันยังได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถผ่อน 0% นานรวม 10 เดือนผ่านบัตรเครดิต พร้อมบริการส่งฟรี เมื่อซื้อกระเช้าของขวัญผ่านบิ๊กซีออนไลน์ครบ 399 บาทขึ้นไป
ส่วน “โลตัส” ก็ได้กระโดดเข้าร่วมจัดกิจกรรมใหญ่ปลายปีด้วยเช่นกัน ผ่านการนำเสนอสินค้ารับเทศกาลของขวัญ และสำหรับการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปาร์ตี้ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้ในบ้าน พร้อมจำหน่ายผ่านกระเช้าของขวัญปีใหม่ต่างๆ ในช่วงเทศกาล รวมกว่า 3,500 รายการ และสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟกว่า 400 รายการ รวมทั้งเมื่อซื้อกระเช้าของขวัญที่สาขาใหญ่ไฮเปอร์ มาร์เก็ต รับฟรี บัตรของขวัญโลตัส มูลค่าสูงสุด 150,000 บาท
ด้าน “แม็คโคร” ผู้นำธุรกิจค้าส่ง ภายใต้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ก็บุกตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่ ภายใต้แนวคิด “Makro Destination of New Year Hampers” เริ่มตั้งแต่วันนี้ - 15 มกราคม 2567 ด้วยสินค้าดีมีคุณภาพมากกว่า 2,000 รายการ เริ่มตั้งแต่ 790-5,990 บาท ทั้งกลุ่มอาหารสด อาหารแห้ง ผักและผลไม้นำเข้า รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
นอกจากนี้ “ท็อปส์” ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ก็ได้เดินหน้ารุกตลาดกระเช้าของขวัญปีใหม่โตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยท็อปส์ได้อัดแคมเปญ Tops of Happiness 2024 รังสรรค์กระเช้าของขวัญปีใหม่สุดพรีเมียมให้เลือกช็อปกว่า 100 แบบ ในราคาและขนาดที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ
โดยในปีนี้ท็อปส์ได้ออกแบบกระเช้าของขวัญผ่านอินไซต์ของผู้บริโภค ภายใต้คอนเซปต์ Discover your Universe of Happiness เพื่อส่งมอบความพิเศษให้กับคนสำคัญในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ พบกับไฮไลต์กระเช้าของขวัญสุดพิเศษ อาทิ
พร้อมโปรโมชันเอ็กซ์คลูซีฟ รับส่วนลดรวมสูงสุด 50% พร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 6 เดือน จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 มกราคม 2567 โดยตั้งเป้ายอดขายกระเช้าปีนี้เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา