EGCO ทุ่มงบปีหน้า 3 หมื่นล้าน! เพิ่มกำลังผลิตไฟ 1 พันเมกฯ

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า ปี 67 บริษัทตั้งงบลงทุนเท่ากับปี 66 ที่ 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วน การถือหุ้น 7,023 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตที่ดำเนินการ อยู่แล้ว 6,688 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 335 เมกะวัตต์ เป็นกำลังการผลิตในประเทศสัดส่วน 43% และต่างประเทศ 57% ซึ่งมีฐานโรงไฟฟ้าใน 8 ประเทศ คือ ไทย ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ บริษัทมีกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนราว 1,418 เมกะวัตต์ คิดเป็น 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด โดยมีแผนหยุดการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติม รวมทั้งมีแผนขายเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้สนใจหลายรายเข้ามาทำ due diligence คาดว่าจะมีความชัดเจนปี 67 นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินที่เอ็กโก กรุ๊ป เข้าไปถือหุ้น ได้มีการศึกษาการใช้แอมโมเนียผสมทดแทนถ่านหินบางส่วน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการเป็น Net Zero Carbon ภายในปี ค.ศ.2040

นอกจากนี้ เรายังประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (หุ้นกู้กรีนบอนด์) มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจ จากนักลงทุนล้นหลาม โดยนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนเงินทุนสำหรับโครงการเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประเภทพลังงาน หมุนเวียนที่มีอยู่เดิมของบริษัทและบริษัทในเครือ ภายใต้กรอบการ จัดหาเงินทุนเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ สู่เป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

นายเทพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 66 จะมีรายได้และกำไรสูงสุดของปี เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงไฟฟ้า ทำให้ความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้น ทั่วโลก ขณะที่ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมทั้งบริษัทรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าจากสหรัฐฯที่ปิดดีลเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ทำให้ รายได้รวมปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 61,725 ล้านบาท โดยปีนี้ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และยังอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนในโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย คาดปิดดีลได้อย่างช้าต้นปี 67.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่