“อิเกีย” บุก “ดิ เอ็มสเฟียร์” เจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดฯหรู โซนสุขุมวิท ดีเดย์เปิดวันแรก 1 ธ.ค.นี้

หลังจากที่ อิเกีย (IKEA) ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก สัญชาติสวีเดน เข้ามาทำตลาดเปิดให้บริการในประเทศไทยมากว่า 12 ปี ประเดิมเปิดสาขาแรก “IKEA บางนา” บนพื้นที่ 44,000  ตารางเมตร ซึ่งอยู่โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก “IKEA บางใหญ่” บนพื้นที่ 50,278 ตารางเมตร โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก เรียกได้ว่าทั้งสองสโตร์นี้อยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ขณะที่ “IKEA ภูเก็ต” มีขนาดพื้นที่ 2,193 ตารางเมตร

เรียกได้ว่าทำเลที่ IKEA ไปปักหมุดนั้นถือเป็น CBD หรือ ย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ที่มีกิจกรรมขับเคลื่อนทางธุรกิจขนาดใหญ่ ศูนย์กลางของแหล่งงาน กิจกรรมทางสังคม และเศรษฐกิจของเมืองหรือประเทศ รวมทั้งการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างอาคารสูงจำนวนมาก จึงนับว่าเป็น “ทำเลทอง” ที่กำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์กความเจริญแห่งใหม่

ปักหมุดที่บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าดิ เอ็มสเฟียร์

มาคราวนี้ IKEA ก็ได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ทำเลกลางใจเมืองได้สำเร็จ ปักหมุดที่บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าดิ เอ็มสเฟียร์ City-Centre Store ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 4 ในไทย ภายใต้คอนเซปต์ City-Centre Store โดยที่รูปแบบของการพัฒนาสาขานี้ก็เพื่อตอบโจทย์คนเมืองย่านสุขุมวิท  ที่ใช้เวลาเร่งรีบ ที่มีจำนวนกว่า 3 แสนครัวเรือนในรัศมีใกล้เคียง รวมทั้งสุขุมวิทยังเป็นพื้นที่ที่ครองความนิยมสูงสุดสำหรับชาวต่างชาติ 

ดังนั้นตัวสาขาจะมีขนาดที่เล็กกว่าสาขาอื่นๆ เพียงแค่ 12,000 ตารางเมตร แต่มีสินค้าที่มีให้เลือกถึง 8,254 รายการ โดยมีถึงกว่า 4,000 รายการที่สามารถช็อป และนำกลับบ้านได้เลย 

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนเมืองด้วยโซลูชันการตกแต่งบ้านที่ครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตหลากหลาย จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “IKEA สุขุมวิท” เป็น ซิตี้ สโตร์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ครองตำแหน่งร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้

ลีโอนี่ ฮอสกิ้น ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า การเปิดตัวซิตี้สโตร์แห่งแรกในประเทศไทยครั้งนี้ยังเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมค้าปลีกครั้งสำคัญ ด้วยการผสานประสบการณ์ช็อปปิ้งออฟไลน์ และออนไลน์ อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น และการนำเสนอบริการที่สนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพิ่มขึ้น 

โดยแนวคิดซิตี้สโตร์ของอิเกียเริ่มต้นขึ้นในปี 2560 และถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายการเติบโตของบริษัทในระดับโลก สำหรับ ‘อิเกีย สุขุมวิท’ ที่มุ่งอำนวยสะดวกแก่ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ใจกลางเมือง ด้วยการเดินทางที่ง่ายขึ้น 

ลีโอนี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเช่าตึกเปิดสโตร์มันไม่ธรรมดา เนื่องจากจะต้องมีจุดขนส่งสินค้าของเราเองได้ มีลิฟต์ขนส่งสินค้าเอง ซึ่งเป็นหัวใจในการทำงานของอิเกีย ดังนั้นการได้พื้นที่ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี รวมทั้งยังเป็นการ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในพื้นที่นี้ เนื่องจากเป็นโซนสำนักงาน ออฟฟิศ โดยคาดว่าจะมีคนเดินทางโดย BTS ประมาณ 30% 

“เป้าหมายในอนาคตคาดว่าจะมีการขยับขยายในทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ คาดว่าจะเป็นย่านรังสิต แต่กระนั้นต้องรอจังหวะเนื่องจากมองว่าจะต้องมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น และมีหมู่บ้านเพิ่มเข้ามา ซึ่งขณะนี้ตลาดยังไม่พร้อม”

สรุปรวมไฮไลต์ “IKEA สุขุมวิท” 

• ขนาดของพื้นที่รวมถึง 12,000 ตร.ม. บนชั้น 3 ของ ดิ เอ็มสเฟียร์ แบ่งเป็น 4 โซน - โชว์รูม 2,276 ตร.ม. ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับวิถีชีวิตของชาวเมือง
  
  
• Market Hall 3,565 ตร.ม. มีสินค้ากว่า 3,000 รายการให้เลือกช้อป ครบครันในทุกประเภทเช่นเดียวกับที่ อิเกีย บางนา และบางใหญ่ รวมทั้งมุมสินค้าตามสภาพ (as-is corner) 
  
  
• Self-Serve 895 ตร.ม. คลังสินค้าบริการตนเอง ที่มีสินค้าที่ซื้อและนำกลับได้เลยกว่า 300 รายการ
  
  
• IKEA Restaurant 858 ตร.ม. อีกหนึ่งมุมไฮไลต์ที่โอบล้อมด้วยวิวของสวนเบญจสิริในมุมกว้างและพร้อมให้บริการถึง 530 ที่นั่ง
  
  
• บริการส่งสินค้าถึงบ้านภายในวัน (same day delivery) ด้วยรถ EV (ภายในรัศมี 8 กม. และเป็นสินค้าที่มีอยู่ในสโตร์ โดยลูกค้ามาช็อปด้วยตัวเอง) โดยมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 129 บาท 
  
  
• วิวของ IKEA Restaurant ซึ่งเห็นสวนเบญจสิริได้ โดยในทุกเย็น เวลาประมาณ 19.30 น. จะมีการแสดงน้ำพุจากสวนฯ ให้ได้ชมอีกด้วย
   
• การนำเทคโนโลยีมาใช้ เพิ่มความสะดวกสบายและรวดเร็วให้กับลูกค้า กับบริการเช็กเอาต์ด้วยตัวเองที่มีช่องให้บริการมากถึง 16 ช่อง 
  
  
• เปิดตัวคอลเลกชันพิเศษ AURTIENDE/ ออเทียนเด ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ที่จะมีแค่ในไทยกับอังกฤษเท่านั้น
  
  
• คอลเลกชัน “IKEA สุขุมวิท” ที่ทำขึ้นมาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า ถุงเท้า เข็มกลัด ฯลฯ ซึ่งสะท้อนสภาพความเป็นอยู่ของกรุงเทพฯ