แอมเวย์ ขายตรงส่งผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ "จีแอนด์เอช" ชิงแชร์ ตลาดวีแกน 4.5 หมื่นล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

แอมเวย์ ขายตรงส่งผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ "จีแอนด์เอช" ชิงแชร์ ตลาดวีแกน 4.5 หมื่นล้าน

Date Time: 26 พ.ย. 2566 14:10 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • แอมเวย์ กระโดดชิงตลาดวีแกน มูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้าน ส่งน้องใหม่กลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์ “จีแอนด์เอช” ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกายสู้ศึก หวังดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์เซอนัลแคร์ สิ้นปี 2566 ปิดที่ 1,200 ล้านบาท หรือโต 5% ส่วนกำลังซื้อปีหน้ามองมีปัจจัยที่เป็นแนวบวกหลายตัว จากความคลี่คลายของดอกเบี้ยและปัจจัยอื่นๆ

Latest


ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาเลือก ‘ลดและงด’ การรับประทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์มากขึ้น จึงทำให้ “วีแกน” และ “แพลนต์เบส” ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่คือความยั่งยืนของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Euromonitor และ Allied Market Research ระบุว่า ตลาดสินค้าวีแกนและแพลนต์เบสกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คาดว่าในปี 2567 ตลาด Plant-based Food ในประเทศไทย จะมีมูลค่าสูงถึง 45,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% นั่นจึงทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีความตื่นตัว และหันมาโหมทำการตลาดที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์วีแกนและแพลนต์เบสอย่างหนัก เพื่อช่วงชิงสัดส่วนทางการตลาด และยอดขายที่มากับเทรนด์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน 

ทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาแอมเวย์เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพให้คนไทยมากว่า 36 ปี ได้มองเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคในหมวดผลิตภัณฑ์เพอร์เซอนัลแคร์และความงาม ที่มีแนวโน้มสนใจและต้องการสินค้าที่มีความพิถีพิถัน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สอดรับตลาดสินค้าวีแกนและแพลนต์เบสที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก  

ดังนั้นการที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพในวงกว้างนั้น เป็นดัชนีชี้วัดให้เห็นว่า มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะสนใจและขยายความต้องการไปยังสินค้ากลุ่มอื่นๆ เช่นกัน 

ส่วนทิศทางต่อจากนี้ แอมเวย์ได้มีการวางหมุดที่จะสร้าง Health & Wellbeing ด้วยการมอบสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงด้วยการผสานส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ หรือ Power of Plant นำไปสู่การสร้าง Healthspan ทำให้คนไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ยืนยาวขึ้น จึงมีแผนปรับไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการแข่งขันสูง ตอบรับเทรนด์และตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 

เพอร์เซอนัลแคร์จะสร้างยอดขายได้กว่า 1,200 ล้าน หรือโต 5%

จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “จีแอนด์เอช กู๊ดเนส แอนด์ เฮลท์” (g&h Goodness & Health) ใหม่ ด้วยสูตรวีแกน ที่มีส่วนผสมจากฟาร์มนิวทริไลต์ และสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค จึงมั่นใจในศักยภาพและความแข็งแกร่ง ตั้งเป้าว่ากลุ่มเพอร์เซอนัลแคร์จะสร้างยอดขายที่ 1,200 ล้านบาท หรือโต 5% ในสิ้นปีนี้ 

ยันตั้งราคาตาม Positioning ของสินค้า ชี้ไม่มีนโยบายขึ้นราคาช่วงนี้

ด้าน วาณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ จีแอนด์เอช เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ที่ครองใจผู้ใช้มาอย่างยาวนาน ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ลูกกลิ้งระงับเหงื่อและกลิ่นกาย สินค้าเรือธงที่เข้าถึงลูกค้าต่อเดือนกว่า 1 แสนคน ในปีนี้ได้ยกระดับสินค้าด้วยการใช้ส่วนผสมพืชธรรมชาติจากฟาร์มออร์แกนิกของนิวทริไลต์ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงที่มาของส่วนผสมที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ 

โดยที่ผลิตภัณฑ์จะมีการพัฒนาเป็นสูตรวีแกนผสานส่วนผสมเข้มข้นจากพืชธรรมชาติแพลนต์เบส ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้ผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมและการทดลองจากสัตว์ ผลิตภัณฑ์ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมมังสวิรัติ (The Vegan Society) อีกทั้งผ่านการทดสอบการแพ้จากแพทย์ผิวหนัง ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ขวดบรรจุภัณฑ์ใช้ส่วนผสมจากวัสดุรีไซเคิล 30% โดยที่สินค้าหมวดเพอร์เซอนัลแคร์ คิดเป็นสัดส่วน 8% ของจำนวนสินค้าทั้งหมด

“ส่วนทางด้านราคาก็จะมีการปรับตาม positioning ของสินค้า โดยที่จะดูทิศทางการวางตลาดควบคู่ไปกับราคาสินค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีนโยบายจะขึ้นราคาในช่วงนี้” 

ทั้งนี้ งบการตลาดโดยรวมต่อปีได้มีการวางไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 โดยจะเป็นการรวมทุกแบรนด์ ส่วนแผนการตลาดในปีนี้ คือ เน้นจัดกิจกรรมทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยทางด้านออฟไลน์จะเป็นการตั้งบูธกระจายสินค้า ส่วนออนไลน์ใช้ KOL รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะที่กลุ่มเป้าหมาย คือ คนที่สนใจในการดูแลสุขภาพ คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจเรื่องเทรนด์ ทั้งอาหาร และสินค้าเกี่ยวกับการใช้งาน

ปัจจุบันแอมเวย์มีฐานลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียม และ GEN Z ประมาณ 45% ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ให้เพิ่มขึ้นกว่า 50% ทั้งนี้ ในปัจจุบันแอมเวย์มีสมาชิกทั้งหมด 2 กลุ่ม โดยเป็นสมาชิก Active 7.2 แสนคน โดยเป็นนักธุรกิจ 3.3 แสนคน ที่ต่ออายุทุกปี ทั้งนี้ หากถามถึงทางด้านยอดขาย วาณีรัตน์ มองว่า ยอดขายผ่านทางออนไลน์รวมกันประมาณ 53-54% ซึ่งต่างจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีแค่ 25% ส่วนยอดขายจากนักธุรกิจแบ่งเป็น 60% และสมาชิก 40%

ขณะเดียวกัน ทศพร มองว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 จะขยายตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากเศรษฐกิจโลก แต่แอมเวย์ผ่านมาหลายวิกฤติ ซึ่งเห็นสัญญาณบวกที่เป็นแรงส่ง ส่วนสภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยที่เป็นแนวบวกหลายตัว ทั้งความคลี่คลายของดอกเบี้ย ฯลฯ  


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ