ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) นัดแรก ที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน ได้มีการรับฟังรายงานความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ และการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และข้อตกลงทางการค้าที่ไทยจะต้องเดินหน้าเจรจาเพื่อเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเปิดตลาดการค้าเพิ่มเติมตามนโยบายรัฐบาล ทั้งนี้ ในส่วนของกรอบการทำ FTA ซึ่งที่ประชุม กนศ.ได้หยิบยกขึ้นมาหารือกันแล้วเห็นว่าจะต้องมีการเร่งรัดตั้งคณะเจรจาไปหารือย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความคืบหน้าได้เร็วขึ้นคือ FTAไทยกับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งสาเหตุอย่างหนึ่งที่บริษัทขนาดใหญ่ชั้นนำของโลกเข้าไปลงทุนในเวียดนามจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวียดนามมีข้อตกลง FTA กับ EU ในขณะที่ไทยยังไม่มี
นายปานปรีย์ กล่าวว่า ในการประชุม กนศ.ในวันนี้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำยุทธศาสตร์การค้าทั่วโลก และจะมีการทำ FTA ระหว่างไทยกับหลายประเทศ แต่ยังไม่ได้ระบุประเทศที่ชัดเจนว่าจะทำกับประเทศไหนบ้าง โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ไปกำหนดยุทธศาสตร์รายประเทศ ร่วมกันเพราะถือว่ามีความสำคัญ และจะต้องดูด้วยว่าจะเร่งรัดอันไหนก่อนหลังเพื่อให้การประชุมครั้งต่อไปมากำหนดยุทธศาสตร์การทำ FTA ในภาพรวม เมื่อทำยุทธศาสตร์เสร็จจะกำหนดประเทศเป้าหมาที่ประเทศไทยจะเดินหน้าเจรจาต่อไป
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ เห็นด้วยที่ต้องมีการเปิดเจรจาการค้ากับต่างประเทศเพิ่มเติม แต่ก็มีข้อกังวลที่ได้เสนอกับที่ประชุมฯไปแล้วว่าต้องระมัดระวังผลกระทบที่จะเกิดจากภาคเกษตรเพราะเรื่องเกษตรถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และภาคเกษตรไทยถือว่ามีความเปราะบาง อะไรก็ตามที่ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนต้องไม่ทำ และควรรักษาผลประโยชน์คนไทยไว้ก่อน ด้านนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน FTA ไทยมีผลบังคับใช้ 14 ฉบับ 18 ประเทศ อยู่ระหว่างเจรจา 12 ฉบับ และยังมีแผนเจรจาเพิ่มเติมด้วย.